เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดมาตรการลงโทษต่อ 4 ผู้บัญชาการทหารพม่า และ 2 หน่วยทหาร จากข้อกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และกวาดล้างชาติพันธุ์ ในการขับไล่ชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาจากบ้านของพวกเขา
ผู้บัญชาการทหาร และหน่วยคุ้มกันชายแดน อ่อง กอ ซอ, ขิ่น หม่อง โซ, ขิ่น หล่าย และตูระ ซาน ละวิน ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำในการดำเนินการรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ รวมทั้งชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในรัฐกะฉิ่น และรัฐชาน
“กองกำลังรักษาความมั่นคงพม่ามีส่วนร่วมในการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อชุมชนชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ทั่วพม่า รวมทั้งการกวาดล้างชาติพันธุ์ การสังหารหมู่ ความรุนแรงทางเพศ การเข่นฆ่าอย่างผิดกฎหมาย และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงอื่นๆ” ซีกัล แมนเดลเกอร์ ปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการการก่อการร้ายและข่าวกรองด้านการเงิน กล่าว
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรกับบุคคลนี้ ยังเป็นคำเตือนถึงกองกำลังรักษาความมั่นคงในการยุติการละเมิดชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์และศาสนา และการเคารพสิทธิของผู้อื่น
อ่อง กอ ซอ ถูกคว่ำบาตรจากความรับผิดชอบในปฏิบัติการขับไล่โรฮิงญาราว 700,000 คน ออกจากบ้านของพวกเขาในรัฐยะไข่ และอพยพเข้าไปยังบังกลาเทศ ตั้งแต่ปี 2559
ขิ่น หม่อง โซ เป็นผู้รับผิดชอบการบัญชาการที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารหมู่โรฮิงญาเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2560 ในเมืองหม่องนู ที่มีรายงานว่า ทหารได้ทุบตี ใช้ความรุนแรงทางเพศ และเข่นฆ่าชาวบ้านโรฮิงญาหลายสิบคน ตามการระบุของกระทรวงการคลัง
ตูระ ซาน ละวิน หัวหน้าหน่วยตำรวจชายแดนถูกกล่าวหาว่า รับผิดชอบต่อการเข่นฆ่าอย่างผิดกฎหมาย การใช้ความรุนแรงทางเพศ และทำร้ายชนกลุ่มน้อยต่างๆ และขิ่น หล่าย ถูกลงโทษจากการละเมิดสิทธิชนกลุ่มน้อยชาวจีน กะฉิ่น และชาน ที่ในเดือน พ.ย.2559 พวกเขาถูกบังคับให้ต้องทำหน้าที่เป็นโล่มนุษย์ให้แก่หน่วยทหารของขิ่น หล่าย ในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธ
สำหรับหน่วยทหารอีก 2 หน่วย ที่ถูกคว่ำบาตรจากความเกี่ยวข้องในการละเมิดเหล่านั้น คือ กองพลทหารราบเบาที่ 33 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการละเมิดโรฮิงญา และกองพลทหารราบเบาที่ 99 ที่อยู่ภายใต้การนำของขิ่น หล่าย
“จำต้องมีความยุติธรรมต่อเหยื่อและผู้ที่ทำงานเพื่อเปิดเผยเรื่องราวความรุนแรงเหล่านี้ ผู้ที่รับผิดชอบต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากอาชญากรรมที่น่ารังเกียจเหล่านี้” แมนเดลเกอร์ กล่าว.