xs
xsm
sm
md
lg

3 หนุ่มนักปีนเขาชาวพม่าซุ่มฝึกหนักหวังพิชิตยอดเขาสูงสุด "ก๋ากะบอราซี"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยคณะเดินทางสำรวจคากาโบราซี 2018 ที่ถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2560 เผยให้เห็นนักปีนเขาชาวพม่าประกอบด้วย อ่อง ข่าย มี้น (ขวา) ซอ ซิน ข่าย (กลาง) และแป เพียว อ่อง (ซ้าย) ระหว่างปีนเขาอามา ดาบลาม ในเนปาล ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางไปยังยอดเขาคากาโบราซี. -- Agence France-Presse.

เอเอฟพี - ด้วยระยะทางเดินป่าที่กินเวลานานถึง 2 สัปดาห์ และการไต่ขึ้นเนินเขาที่อาจเกิดหิมะถล่มได้ทุกเมื่อ สันเขาสูงชันที่ขรุขระ ยอดเขาสูงที่หนาวจัดแห่งนี้ กำลังเฝ้ารอนักปีนเขาชาวพม่า 3 คน ที่วางแผนจะขึ้นสู่ยอดเขาก๋ากะบอราซี (Hkakabo Razi) ยอดเขาสุดอันตรายที่ถูกพิชิตไปได้เพียงแค่ครั้งเดียว

เชื่อกันว่า คากาโบราซี เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ระดับความสูง 5,881 เมตร ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของพม่าใกล้กับพรมแดนจีน และอินเดีย ส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยที่อยู่ในประเทศเขตร้อนแห่งนี้

เส้นทางที่ยากลำบากไปยังจุดสูงสุดเริ่มต้นด้วยการเดินเท้าอย่างทรหด 240 กิโลเมตร ผ่านป่าทึบของรัฐกะฉิ่น ที่เต็มไปด้วยอสรพิษ เช่น งู และปลิงดูดเลือด

“ระดับความยากของภูเขาลูกนี้หนักหนาสาหัสมาก” ซอ ซิน ข่าย อายุ 32 ปี กล่าว ระหว่างหยุดพักจากการฝึกซ้อมบนหน้าผาหินปูนในรัฐกะเหรี่ยง

ทีมจะต้องเผชิญหน้ากับผาสูงลาดชัน หิมะถล่มที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และเส้นทางที่เป็นสันเขาแหลม ปกคลุมไปด้วยหิมะ และน้ำแข็ง

“มีความเสี่ยงที่เราอาจจะไม่รอดกลับมาก” นักปีนเขา กล่าว

ซอ ซิน ข่าย และเพื่อนร่วมเดินทางอีก 2 คน คือ แป เพียว อ่อง อายุ 36 ปี และอ่อง ข่าย มี้น อายุ 32 ปี หวังที่จะสร้างประวัติศาสตร์ ในฐานะทีมปีนเขาที่เป็นชาวพม่าทั้งหมดทีมแรกที่พิชิตยอดเขาแห่งนี้ และยังหวังที่จะยุติข้อพิพาทยาวนานหลายสิบปีเกี่ยวกับความสูงว่าระหว่างยอดเขาคากาโบราซี หรือยอดเขากัมลังราซี ที่อยู่ใกล้กัน จะได้รับเกียรติให้เป็นยอดเขาสูงสุดในภูมิภาค

นักปีนเขาทั้ง 3 คน เวลานี้กำลังเฝ้ารอสภาพอากาศที่เหมาะสมเพื่อเริ่มต้นการเดินทาง หลังจากฝึกซ้อมกันอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือน รวมทั้งการเดินทางไปยังเนปาล การฝึกในยิมที่ย่างกุ้ง และการสวมหน้ากากจำลองระดับความสูงที่มีออกซิเจนต่ำ


แป เพียว อ่อง สมาชิกหนึ่งใน 2 ของทีมที่เคยพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ระบุว่า ความห่างไกล และการขาดโครงสร้างพื้นฐานของยอดเขาก๋ากะบอราซีทำให้ยอดเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายอย่างมาก

“ถึงแม้ว่าคุณจะอายุ 70 ปี คุณก็สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ ถ้าคุณมีเงินมากพอจะจ่ายให้คนพาคุณขึ้นไป พวกเขายังรักษาเส้นทางจากเบสแคมป์ไปยังยอดเขา เต็มไปด้วยลูกหาบ และเป็นเรื่องง่ายที่จะค้นหาคนจากทางอากาศหากหลงทาง หรือหายตัวไป แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่กับที่ก๋ากะบอราซีแห่งนี้” แป เพียว อ่อง กล่าว

ความพยายามครั้งแรกที่จะสำรวจภูเขาคือ นักสำรวจ และนักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษ แฟรงค์ คิงดอน-วอร์ด ในปี 2479 จากหนังสือ “Burma’s Icy Mountains” ซึ่งคิงดอน-วอร์ด อธิบายถึงความพ่ายแพ้ของเขาต่อยอดเขาแห่งนี้ ที่บังคับให้เขาต้องหันหลังกลับแม้จะห่างจากยอดเขาเพียง 1 กิโลเมตร

ผ่านมาอีก 60 ปี ทากาชิ โอซากิ นักปีนเขาชาวญี่ปุ่น และนีมา กาลเซน ชาวพม่า สามารถเอาชนะยอดเขาแห่งนี้ได้สำเร็จในความพยายามครั้งที่ 3 ซึ่งโอซากิ ได้อธิบายถึงภูเขาลูกนี้ว่า เป็นภูเขาที่อันตราย และยากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

แต่เพราะไม่มีอุปกรณ์จีพีเอส จึงไม่สามารถระบุความสูงที่แน่ชัดของยอดเขาแห่งนี้ได้

หลังจากนั้น ยังมีการเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาก๋ากะบอราซีอีก 2 ครั้ง ในปี 2557 ซึ่งล้วนพบกับความล้มเหลว

เต ซา นักธุรกิจทรงอิทธิพลของพม่า ที่อยู่เบื้องหลังความพยายามที่จะพิชิตยอดเขาก๋ากะบอราซีของทีมชาวพม่าแต่ล้มเหลวนั้น ได้เข้ามาเป็นนายทุนใหญ่สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ ที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน

นักปีนเขาทั้ง 3 คน จะมีทีมสนับสนุนที่มีสมาชิก 5 คน และลูกหาบอีก 70 ชีวิตคอยช่วยเหลือ เทียบกับครั้งก่อนที่มีเพียง 25 คน รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยอีกจำนวนหนึ่งที่เตรียมพร้อมไว้อยู่ตลอดเวลา

ซอ ซิน ข่าย กล่าวว่า พวกเขาวางแผนที่จะปักธงชาติบนยอดเขาด้วยมือของพวกเขาเอง และหวังให้การเดินทางครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักปีนเขาในประเทศ

แต่ เอมิลี แฮริงตัน หนึ่งในสมาชิกทีมสารคดีของเนชันแนลจีโอกราฟฟิกที่เคยเดินทางแต่ไปไม่ถึงยอดเขาเตือนว่า การขึ้นสู่ยอดเขาไม่ใช่ทุกสิ่ง และแนะนำว่าทีมต้อง “ฟังภูเขา”

“หากภูเขาบอกให้คุณหยุด คุณก็ต้องหยุด สิ่งเดียวที่สำคัญคือ คุณต้องกลับมาทั้งที่ยังมีลมหายใจ” แฮริงตัน กล่าว.







กำลังโหลดความคิดเห็น