เขมรวางศิลาฤกษ์ท่าเรือใหญ่แห่งใหม่ใน จ.กัมโป้ต ดันท่องเที่ยวชายทะเลอ่าวไทย

MGR ออนไลน์ -- รัฐบาลกัมพูชาทำพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อก่อสร้างท่าเรือแห่งใหม่ ที่ริมทะเลอ่าวไทยใน จ.กัมโป้ต (Kampot) วันพุธที่ผ่านมา และต่างไปจากท่าเรือสีหนุวิลล์ ที่อยู่ถัดออกไปทางทิศตะวันตก ท่าเรือกัมโป้ตสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับและส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอ่าวไทยโดยเฉพาะ โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank)

พิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างท่าเรือพาณิชย์นานาชาติ ที่ใช้เงินกู้จากเอดีบี 8 ล้านดอลลาร์ สมทบกับเงินงบประมาณ จัดขึ้นโดยมี นายทองคูน (Thong Khon) รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวเป็นประธาน ผู้ว่าราชการจังหวัดกัมโป้ต ตัวแทนของเอดีบี และข้าราชการกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เข้าร่วมพิธีด้วยประมาณ 800 คนสำนักข่าวออนไลน์ภาษาเขมรรายงาน

ไม่เพียงแต่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล ระหว่างกัมโป้ต พระสีหนุ กับ จ.เกาะกง เท่านั้น กัมพูชายังมองไปวันข้างหน้าที่ท่าเรือแห่งนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของการท่องเที่ยวทะเลอ่าวไทย ระหว่างกัมพูชา กับเมืองพัทยาของไทย และ กาะฟุก๊วก ของเวียดนาม

รัฐบาลมีความพยายามเป็นอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้การท่องเทื่ยวขยายลงสู่แหล่งชายทะเลภาคใต้ แทนที่จะกระจุกอยู่ใน จ.เสียมราฐ กับกรุงพนมเปญเมืองหลวง และหลายปีมานี้ได้ลงทุนมหาศาลในการพัฒนาถนนหนทาง รวมทั้งเปิดเดินรถไฟสายใต้ และพัฒนา-ขยาย ท่าอากาศยานนานาชาติสีหนุวิลล์ ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในย่านนั้นด้วย

ตามตัวเลขของกระทรวงท่องเที่ยว ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ากัมพูชา 5.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.8% ทำรายได้ให้ประเทศ 3,600 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นประมาณ 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) สร้างงานทำโดยตรงกว่า 650,000 ตำแหน่ง และสร้างงานโดยอ้อมอีกนับหมื่นๆ ตำแหน่ง
.









การท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่อง โดย 6 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ากัมพูชาแล้วราว 3 ล้านคน คิดเป็นอัตราเพิ่ม 13% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 กระทรวงนี้คาดว่าจนถึงสิ้นปี 2561 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวกัมพูชาประมาณ 6.2 ล้านคน

เป็นพิเศษอย่างยิ่งก็คือ เมื่อปีที่แล้วจังหวัดริมทะเลอ่าวไทย ซึ่งได้แก่ เกาะกง พระสีหนุ กัมโป้ต และ จ.แก๊บ (Kep) ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวรวมกันราว 3.2 ล้านคน ในนั้นเป็นชาวต่างชาติราว 740,000 คน ซึ่งคิดเป็นอัตราเพิ่มถึง 20% จากปีก่อน

เชื่อว่าภายในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวประเทศนี้ถึง 7 ล้านคน ทำรายได้ให้กัมพูชากว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ สร้างงานทำโดยตรงราว 1 ล้านตำแหน่ง และโดยทางอ้อมอีกนับหมื่นๆ

กัมโป้ตซึ่งมีชายฝั่งทะเลยาวไกลกำลังจะมีท่าเรืออีกแห่งหนึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งจะเป็นท่าเรือน้ำลึกแห่งที่ 2 ถัดจากท่าสีหนุวิลล์ หรือท่าเรือกัมปงโสมเก่า ที่ใช้งานมาตั้งแต่หลังได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส โดยในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทสัญชาติกัมพูชาแห่งหนึ่งได้เซ็นความตกลงกับกลุ่มบริษัทท่าเรือจากมณฑลกว่างซี ของจีน เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการนี้่

ท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ดังกล่าว สร้างขึ้นเพื่อสนองนโยบาย "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ตามความริเริ่มของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และรัฐบาลจีนกับรัฐบาลกัมพูชา มีความเห็นชอบร่วมกันในเรื่องนี้.