xs
xsm
sm
md
lg

ฮานอยหายใจลำบากมลพิษพุ่ง เร่งปลูกต้นไม้-ห้ามมอเตอร์ไซค์เข้าเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online



รอยเตอร์ - กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามที่แวดล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคม เจดีย์โบราณ และร้านเฝอแสนอร่อย แต่ขณะเดียวกัน ก็เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศ

กรุงฮานอย ที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 7.7 ล้านคน และอัตรามลพิษในปีก่อนสูงกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกยอมรับได้ถึง 4 เท่า เป็นหนึ่งในหลายเมืองของเอเชียที่กำลังต่อสู้กับการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ และกิจกรรมทางอุตสาหกรรม

ปัญหามลพิษเป็นความเสี่ยงทางการเมืองสำหรับเวียดนามที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะเห็นได้จากการชุมนุมประท้วงทางสิ่งแวดล้อมที่เรียกร้องให้เก็บรักษาต้นไม้ หรือการชุมนุมประท้วงต่อต้านโรงงานถลุงเหล็กที่ถูกกล่าวหาว่าก่อมลพิษต่อท้องทะเล

แต่ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพอากาศก็กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับบางคน

“ผมมักเล่นมุกตลกกับเพื่อนๆ ว่า ยิ่งอากาศมีมลพิษมากขึ้นเท่าไร ผมก็ยิ่งรวยขึ้นเท่านั้น” กาว ซวน จุง ตัวแทนจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ ที่คาดว่าจะมีรายได้ต่อเดือนเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในปี 2563 จากเวลานี้ที่ทำรายได้อยู่ราว 3,000 ล้านด่ง (131,199 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงกว่าตอนเริ่มต้นธุรกิจในปี 2556 ถึง 75 เท่า

คุณภาพอากาศของกรุงฮานอยย่ำแย่เป็นอันดับ 2 เมื่อเทียบกับบรรเมืองใหญ่ต่างๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2559 ส่วนนครโฮจิมินห์ เมืองเศรษฐกิจทางภาคใต้ของเวียดนาม อยู่อันดับ 4 ตามการรายงานของกลุ่มสิ่งแวดล้อม Green Innovation and Development Centre (GreenID)

“การพัฒนาที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นเช่นกัน” หัวหน้ากลุ่ม GreenID ระบุ โดยกล่าวถึงเหตุปัจจัย เช่น โครงการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มจำนวนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และอุตสาหกรรมหนักรอบเมือง ตั้งแต่โรงงานเหล็ก โรงงานซีเมนต์ ไปจนถึงโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ในการต่อสู้กับปัญหามลพิษ สภาเมืองฮานอยได้อนุมัติห้ามใช้รถจักรยานยนต์ในตัวเมืองในปี 2573 และวางแผนเพิ่มการขนส่งสาธารณะ รวมทั้งระบบรถไฟใหม่ นอกจากนี้ ทางการกรุงฮานอยยังปลูกต้นได้มากกว่า 80% ของเป้าหมาย 1 ล้านต้น และต้องการที่จะเพิ่มสถานีตรวจสอบอากาศ 70 สถานี จากเดิมที่มีอยู่เพียง 10 สถานี

เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมยังระบุว่า ทางการกำลังผลักดันให้ประชาชนหันไปใช้เครื่องทำความร้อนที่สะอาดกว่าแทนการใช้เตาถ่านที่ก่อมลพิษ และเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ

แต่อย่างไรก็ตาม GreenID ระบุว่า แม้ทางการออกมาตรการปรับปรุงหลายอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่า สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งจากการบันทึกสภาพอากาศ 10 วันในกรุงฮานอย ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี พบว่า มีค่าสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 และปี 2560

“จากที่เราเห็นโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ การจราจรหนาแน่นมากขึ้น และแหล่งมลพิษทางอากาศอื่นๆ รอบกรุงฮานอย และนครโฮจิมินห์ มันดูเหมือนว่าเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเวียดนามแตะระดับสูงสุดของมลพิษทางอากาศแล้ว” ที่ปรึกษาทางเทคนิคของ GreenID ระบุ

นอกจากนโยบายต่างๆ ของทางการแล้ว ผู้สนับสนุนอากาศบริสุทธิ์ยังเสนอทางเลือกอื่นอีกเช่นกัน

“ผมต้องการสร้างสวนที่เจ้าของบ้านสามารถสูดรับอากาศบริสุทธิ์ หลังทำงานมาตลอดทั้งวัน” สถาปนิกอายุ 27 ปี กล่าว โดยบ้านของเขาแบ่งพื้นที่บนหลังคา ปลูกพืช 15 ชนิดที่ช่วยฟอกอากาศ ตั้งแต่ต้นลิ้นมังกร ไปจนถึงต้นปาล์ม.









กำลังโหลดความคิดเห็น