รอยเตอร์ - ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงชาวกัมพูชาทยอยเดินทางไปเลือกตั้งในวันนี้ (29) การเลือกตั้งที่นายกรัฐมนตรีฮุนเซน คาดว่าจะชนะอย่างง่ายดาย และยืดเวลาการครองอำนาจกว่า 30 ปีของตน หลังพรรคฝ่ายค้านพรรคหลักถูกยุบพรรค และปราบปรามผู้เห็นต่างของรัฐบาล
ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของฮุนเซน เรียกร้องการคว่ำบาตรการเลือกตั้ง โดยระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งจอมปลอมเมื่อไร้ซึ่งฝ่ายค้านที่แท้จริง
พรรคการเมือง 19 พรรค ร่วมลงแข่งขันสู้กับพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของฮุนเซน แต่ไม่มีพรรคใดที่แสดงท่าทีวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล
รส วิรัค อายุ 34 ปี เดินออกจากคูหาเลือกตั้งในกรุงพนมเปญ พร้อมนิ้วมือเปื้อนหมึกเพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาได้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงแล้ว
“ผมไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไรกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ในฐานะพลเมือง ผมได้ทำหน้าที่ของตนเองในการลงคะแนนเสียงแล้ว” รส วิรัค กล่าว และปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าลงคะแนนให้แก่ผู้ใด
การลงคะแนนเสียงไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เจ้าหน้าที่ได้เตือนว่าผู้ใดที่คว่ำบาตรการเลือกตั้งจะถูกมองว่าเป็น “คนทรยศ”
นักวิจารณ์กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยในกัมพูชา ด้วยหลายเดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยการข่มขู่คุกคามของพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) และการยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคหลักเมื่อปีก่อนโดยศาลสูง
แกนนำพรรค CNRP จำนวนมากได้หลบหนีออกนอกประเทศ และลี้ภัย ขณะที่แกม สุขา หัวหน้าพรรคถูกจำคุกในเดือน ก.ย. จากข้อกล่าวหากบฏทรยศชาติ และก่อนเลือกตั้งเพียง 2 วัน เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ปิดเว็บไซต์สื่ออิสระอีกจำนวนหนึ่ง
รัฐบาลยืนยันว่า การเลือกตั้งจะดำเนินไปอย่างเสรี และยุติธรรม แต่หากจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงต่ำอาจทำลายการกล่าวอ้างความชอบธรรมของรัฐบาลได้
“ไม่ว่าคุณจะพยามยามอย่างหนักแค่ไหน แต่พรรคประชาชนกัมพูชาจะยังชนะอย่างถล่มทลายอยู่ดี” โสก อายสาน โฆษกพรรค CPP กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยมุ่งเป้าไปที่นักวิจารณ์
สม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศเรียกร้องให้ชาวเขมรอย่ากลัวการข่มขู่ของฮุนเซนทางข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อวันเสาร์ (28)
“อย่ากลัวการข่มขู่ของเผด็จการที่ต้องการบังคับคุณให้ไปเลือกตั้ง” สม รังสี ระบุ
ตำรวจถูกระดมกำลังเข้ารักษาความปลอดภัยรอบเมืองตามคูหาเลือกตั้ง แต่ไม่มีสัญญาณของความไม่สงบเกิดขึ้น
ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอชท์ภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากไม่เต็มใจที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่เพราะความหวาดกลัว และความจำเป็นที่ต้องอยู่รอด ผลักดันให้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียง
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้ลงทะเบียนเพื่อไปใช้สิทธิราว 8 ล้านคน ขณะที่เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งคาดการณ์ว่า จะมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงไม่ต่ำกว่า 60%
คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติจะประกาศผลเบื้องต้นในคืนนี้ ส่วนผลอย่างเป็นทางการคาดว่าจะประกาศในกลางเดือน ส.ค.