เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าระบุวันนี้ (27) ว่า ประชาชนหลายพันครอบครัวต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเพื่อหนีน้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครเร่งจัดส่งอาหารและความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยเหล่านี้
รัฐกะเหรี่ยง รัฐมอญ และเขตพะโค มีฝนตกหนักในช่วงหลายวันมานี้ และไม่มีสัญญาณว่าจะลดลง ซึ่งสร้างความวิตกว่าสถานการณ์อาจรุนแรงยิ่งขึ้น
ภาพถ่าย และคลิปวิดีโอเผยให้เห็นประชาชนในเมืองพะอัน (Hpa An) ที่เป็นเมืองเอกของรัฐกะเหรี่ยง ต้องใช้เรือเป็นพาหนะพายอยู่บนถนนที่กลายเป็นสายน้ำ ขณะที่ชาวบ้านอีกจำนวนมากต้องอพยพฝ่าผืนน้ำที่ท่วมสูงถึงเอวออกไปยังพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งเวลานี้มีศูนย์พักพิงชั่วคราวตั้งขึ้นอยู่รอบเมืองพะอัน 11 แห่ง
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสวัสดิการสังคม ระบุว่า มีประชาชนกว่า 16,000 คน ต้องอพยพออกออกจากที่อยู่อาศัยของตนเองใน 8 เมืองของรัฐกะเหรี่ยง
“ประชาชนที่อพยพเป็นชาวเมืองพะอันมากกว่า 6,000 คน และอีกราว 4,000 คน จากเมืองเมียวดี” หัวหน้าตำรวจรัฐกะเหรี่ยง กล่าว
สำหรับจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบในรัฐมอญ และเขตพะโคยังไม่มีการยืนยันในขณะนี้
สื่อทางการพม่าได้เผยแพร่รูปภาพนางอองซานซูจี ขณะลงพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง เยี่ยมผู้ประสบภัย และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์และอาสาสมัคร ขณะที่หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ รายงานว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 200 ล้านจ๊าต (ราว 140,000 ดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และซ่อมแซมสะพานต่างๆ ที่เสียหาย
“เรากำลังจัดส่งอาหารให้แก่เหยื่อน้ำท่วมที่ไม่ต้องการออกจากบ้านของตัวเอง แต่หากฝนตกหนักขึ้น พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก นอกจากทิ้งบ้านไว้” อาสาสมัครรายหนึ่ง กล่าว
เช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค พม่ามักเผชิญต่อสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงทุกปี และในปี 2558 มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมมากกว่า 100 คน และยังทำให้มีผู้พลัดถิ่นอีกหลายแสนคนทั่วประเทศ.