เอเอฟพี - ทูตพิเศษสหประชาชาติประจำพม่ากล่าวกับเจ้าหน้าที่ในกรุงเนปีดอ ระหว่างเยือนพม่าครั้งแรกว่ามาตรการที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องกำหนดขึ้นเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่และผลักดันให้ชาวโรฮิงญาราว 700,000 คน ต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือนของตนเอง คำแถลงของสหประชาชาติระบุ
นางคริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ได้หารือกับนางอองซานซูจี และพล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ระหว่างการเยือนพม่าเป็นเวลา 9 วัน ซึ่งสิ้นสุดลงวานนี้ (21)
“จากการหารือทั้งหมด ผู้แทนพิเศษได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความรับผิดชอบ ซึ่งเธอย้ำว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อการปรองดองที่แท้จริง” คำแถลงสรุปการเยือน ระบุ
ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ เรียกร้องการกำหนดมาตรการค้นหาข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือและกล่าวว่าสหประชาชาติพร้อมที่จะร่วมมือในการกำหนดขั้นตอนเหล่านั้น
ผู้แทนพิเศษจะเดินทางไปบังกลาเทศที่ชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 700,000 คน พักอาศัยอยู่ในค่ายต่างๆ หลังถูกขับออกจากบ้านของตนอันเนื่องจากการปราบปรามของทหาร แต่ฝ่ายพม่าระบุว่าปฏิบัติการของทหารที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนส.ค. ทางพื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่นั้นมีเป้าหมายที่การกำจัดกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง
หลังการเยือนค่ายโรฮิงญาพลัดถิ่นในรัฐยะไข่ ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ยังแนะนำว่าเจ้าหน้าที่ควรจัดการประชุมหารือสาธารณะกับชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบเพื่อสนับสนุนส่งเสริมการปรองดองและการเยียวยา
สหประชาชาติ รวมทั้งสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ต่างกล่าวว่า การปราบปรามของทหารพม่าในรัฐยะไข่นั้นเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์ และกำลังผลักดันให้เกิดการสืบสวนเต็มรูปแบบต่อข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน
พม่าปฏิเสธที่จะอนุญาตให้ภารกิจค้นหาข้อเท็จจริงที่ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติเข้าประเทศ รวมทั้งนางยางฮี ลี ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ.