รอยเตอร์ - เอกสารที่ตำรวจพม่าระบุว่า พบในโทรศัพท์มือถือของสองนักข่าวรอยเตอร์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าครอบครองเอกสารลับของรัฐนั้นไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด ทนายความฝ่ายนักข่าวเผยเมื่อวันอังคาร (5) เนื่องจากเป็นข้อมูลที่เปิดเผยสู่สาธารณชนตั้งแต่ก่อนที่นักข่าวจะถูกจับกุมตัว
ผู้พิพากษา เย ละวิน ยอมรับสำเนาข่าวหนังสือพิมพ์ไว้เป็นหลักฐาน ที่ฝ่ายนักข่าวกล่าวว่า ได้เปิดเผยให้เห็นข้อมูลในเอกสารที่ได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ไปแล้ว ขณะที่พยานตำรวจนายหนึ่งได้กล่าวกับศาลก่อนหน้านี้ว่า เอกสารที่พวกเขาพบในมือถือของนักข่าวประกอบด้วย จดหมาย และแผนลับของรัฐบาล
ศาลในนครย่างกุ้งได้ดำเนินการพิจารณาเบื้องต้นตั้งแต่เดือน ม.ค. เพื่อตัดสินว่า วา โลน และกอ โซ อู สองนักข่าวรอยเตอร์จะถูกตั้งข้อหาตามกฎหมายความลับราชการหรือไม่ กฎหมายที่มีโทษจำคุกสูงสุด 14 ปี หากพบว่ากระทำผิด
ตัน ซอ อ่อง ทนายฝ่ายนักข่าวกล่าวต่อศาลว่า เนื้อหาของเอกสารลับสุดยอดที่ตำรวจอ้างว่าดึงออกมาจากโทรศัพท์นักข่าว ถูกรายงานลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น และหนังสือพิมพ์ของรัฐ ก่อนการจับกุมตัวนักข่าวในวันที่ 12 ธ.ค. ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสาธารณชนรับทราบแล้ว
เอกสาร ประกอบด้วย จดหมายราชการที่กล่าวถึงการเยือนรัฐยะไข่ของรองประธานาธบิดีมี้น ส่วย และแผนสำหรับการพัฒนาเกาะนอกชายฝั่งตะวันตกเพื่อการท่องเที่ยว
นายตำรวจอ่อง กอ ซาน ที่เชี่ยวชาญด้านไอที ซึ่งเป็นฝ่ายพยานโจทก์ กล่าวต่อศาลว่า เขาไม่ทราบเรื่องรายงานข่าว เพราะเขาไม่อ่านหนังสือพิมพ์ และยังกล่าวเสริมว่า นักข่าวไม่ควรครอบครองเอกสารดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าเอกสารเหล่านั้นจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนแล้วหรือไม่ก็ตาม
อัยการกอ มิน อ่อง ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นหลังการพิจารณคดี
ในช่วงการจับกุมตัวนักข่าว ทั้งคู่กำลังทำงานสืบสวนเหตุสังหารหมู่ชายโรฮิงญา 10 คน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐยะไข่ การสังหารที่เกิดขึ้นในช่วงการปราบปรามของทหารที่หน่วยงานสหประชาชาติ ระบุว่า ส่งผลให้ประชาชนเกือบ 700,000 คน ต้องอพยพหลบหนีไปบังกลาเทศ
นักข่าวได้บอกกล่าวกับญาติว่า พวกเขาถูกจับกุมตัวเกือบจะในทันทีหลังได้รับเอกสารบางอย่างที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งชานนครย่างกุ้งจากตำรวจ 2 นาย ที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อน
ในวันอังคาร (5) ผู้พิพากษาเย ละวิน ยอมรับบทความของรอยเตอร์เกี่ยวกับการสังหารที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ไว้เป็นหลักฐาน ความเคลื่อนไหวที่ฝ่ายนักข่าวระบุว่า จะช่วยเปิดเผยแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการจับกุม
“ศาลยอมรับเรื่องหมู่บ้านอินดินเป็นหลักฐาน ความจริงของสิ่งที่เราได้ทำไว้จะถูกเปิดเผยเร็วๆ นี้” วา โลน กล่าวต่อนักข่าวหลังกระบวนการพิจารณาคดี
เมื่อเดือนก่อน ร.ต.อ.โม ยาน นาย ให้การว่า นายตำรวจระดับสูงนายหนึ่งได้สั่งการให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาวางแผนมอบเอกสารลับให้แก่ วา โลน เพื่อจับกุมนักข่าว แต่ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ผู้บัญชาการตำรวจปฏิเสธคำให้การดังกล่าว ระบุว่า ไม่เป็นความจริง.