MGR ออนไลน์ -- ห้าเดือนที่ผ่านมา คือ ระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค. มีชาวกัมพูชาเสียชีวิต จากถูกฟ้าผ่าถึง 65 คน และ เสียชีวิตจากภัยพิบัติที่เกี่ยวกับฟ้าฝนอีก 3 คน และ ยังมีอีก 75 คนบาดเจ็บ ด้วยเหตุเดียวกัน นี่คือตัวเลขล่าสุดที่รวบรวมจนถึงวันที่ 1 มิ.ย. โดยคณะกรรมการควบคุมภัยพิบัติแห่งชาติ ในขณะที่ฝนยังตกต่อเนื่อง และ เกิดเหตุการณ์ฟ้าคะนอง และ ผ่าลงมาอยู่ทุกวัน
ตัวเลขล่าสุดนี้่นับว่าสูงเป็นประวัติกาล หากเทียบกับช่วงเดียวกันตลอด 10 ปีมานี้่ และ สาเหตุก็ยังเป็นเรื่องเดิมๆ คือ ประชาชนทั่วไปขาดความระมัดระวัง ประมาทฝนฟ้า ไม่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยเบื้องต้น ที่ทางการได้ออกแนะนำผ่านสื่อต่างๆ ตลอดหลายเดือนมานี้ และ ช่วง เม.ย.-มิ.ย. ก็เป็นช่วงที่เกิดฟ้าผ่าบ่อยที่สุดในรอบปีอีกด้วย
จากตัวเลขดังกล่าว ก็เท่ากับว่าทุกๆ 3 วัน จะมีชาวกัมพูชาเสียชีวิตจากฟ้าผ่า 1 คน ยังไม่นับจำนวนผู้บาดเจ็บ และ ยังไม่รวมสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ วัว ที่อยู่กันเป็นฝูง และ มักจะล้มตายคราวละหลายๆ ตัว เมื่อฟ้าผ่าลงแต่ละครั้ง
นายแก้ววีโฆษกของคณะกรรมการฯ กล่าวว่า นอกจากฟ้าผ่าแล้ว ในห้วงเวลาเดียวกันนี้ ยังมีความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติอื่นๆ รวมทั้งพายุฝนที่ทำให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายยับเยินไปแล้ว 472 หลังคา อีก 1,708 หลังคา เสียหายหนัก เช่น ฝาบ้านหายไปทั้งแถบ หรือ หลังคาถูกลมแรงพัดหายไป โรงเรียนกับอาคารเรียน 7 หลัง อาคารอื่นๆ อีก 9 หลัง -- กรณีเหล่านี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 29 คน
ฝนตกหนักทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดน้ำท่วมผืนนากว่า 700 เฮกตาร์ (กว่า 4,300 ไร่) ใน อ.มงคลบุรี จ.บ้านใต้มีชัย แต่ภัยพิบัติจากฟ้าฝนเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ -- สัปดาห์ปลายเดือนที่แล้ว พายุฝนทำให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายหนักจำนวนนับสิบหลังคา ใน จ.ตะแกว ทางตอนใต้กรุงพนมเปญ และ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. เด็กชายวัย 12 ปีคนหนึ่งเสียชีวิต ใน อ.แก้วสีมา จ.มณฑลคีรี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ -- ฝนยังไม่ตก แต่เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา ขณะเด็กเคราะห์ร้าย เดือนผ่านต้นไม้ริมทาง เป็นที่น่าเวทนาสำหรับผู้พบเห็น
.
ตามรายงานของสำนักข่าวออนไลน์ภาษาเขมร เมื่อเกิดฝนตกลงมา ทางการได้ออกแนะนำให้เกษตรกร ชาวนาทั่วไปต้องรีบวางเครื่องมือทุกชนิด และ ต้องรีบออกจากท้องนากลับเข้าบ้าน เช่นเดียวกันกับประชาชนทั่วไป ต้องรีบหลบเข้าเคหะสถานที่อยู่ใกล้ที่สุด และ จะต้องไม่หลบฝนเข้าใต้ต้นไม้ใหญ่ หลีกเลี่ยงการพกพาสิ่งของที่เป็นโลหะ รวมทั้งไม่ใส่นาฬิกา แว่นตากรอบโลหะ กับเครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิด ซึ่งเป็นสิ่งล่อฟ้าอย่างดี
แม้ในขณะอยนู่ภายในบ้านก็ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือ ไม่เปิดวิทยุ โทรทัศน์ -- ทางการหลายท้องถิ่นยังออกแนะนำให้ประชาชนที่ตั้งบ้านเรืออยู่ห่างไกล และ ตั้งเสารับสัญญาณโทรทัศน์สูงๆ ให้รีบลดลง หรือ เลิกใช้เสาสูงเป็นการชั่วคราวในฤดูฝน เพราะเป็นสายล่อฟ้าอย่างดี ทำให้เกิดฟ้าผ่าลง และ เสียชีวิตไปหลายคน เป็นตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว.