ซินหวา - นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา เรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิของตัวเองลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึง
“ผมขอเรียกร้องให้เพื่อนร่วมชาติ และเยาวชนทุกคนลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 29 ก.ค. 2561” ผู้นำเขมรโพสต์ข้อความลงในหน้าเพจเฟซบุ๊ก
นายกรัฐมนตรีกัมพูชายังกล่าวขอบคุณประชาชนสำหรับความไว้วางใจการเป็นผู้นำของเขา และหวังให้ประชาชนยังลงคะแนนเสียงให้แก่พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ที่เป็นพรรครัฐบาลต่อไปเพื่อสันติภาพ และการพัฒนาสืบเนื่องยาวนาน
“ไม่มีผู้นำคนใดที่ให้คำแนะนำประชาชนไม่ให้ลงคะแนนเสียง มีแต่ผู้ที่ไม่หวังดีที่ต้องการทำลายประชาธิปไตย และความมุ่งมั่นตั้งใจของประชาชนที่จะสามารถทำเช่นนั้น” ฮุนเซน กล่าว
ผู้นำเขมร กล่าวว่า ในสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงอยู่ในระดับต่ำ ประมาณ 30% และ 40% ตามลำดับ แต่ผลการเลือกตั้งก็ยังเป็นที่ยอมรับ ขณะที่กัมพูชานั้นมีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงนั้นมากกว่าถึง 69% ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2556
ความเห็น และการเรียกร้องของฮุนเซนเหล่านี้มีขึ้นหลังจาก นายสม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และกลุ่มของเขาได้ย้ำคำเรียกร้องให้ประชาชนคว่ำบาตรการเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่า พรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่ถูกยุบพรรคไปแล้วนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง
ตามการระบุของคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ (NEC) มีพรรคการเมืองทั้งสิ้น 5 พรรค ที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการให้ร่วมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ประกอบด้วย พรรคประชาชนกัมพูชา พรรคฟุนซินเปก พรรคเยาวชนกัมพูชา พรรคชนชาติกัมพูชา และพรรคสามัคคีชาติกัมพูชา
NEC กำลังพิจารณาเอกสารลงทะเบียนจากพรรคการเมืองอีก 15 พรรค โดยตัวเลขสุดท้ายของจำนวนพรรคการเมืองที่ร่วมลงเลือกตั้งจะประกาศในวันที่ 21 พ.ค.
ชาวกัมพูชาราว 8.3 ล้านคน มีสิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้
ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2556 มีพรรคการเมืองเพียง 8 พรรคเข้าร่วมการเลือกตั้ง และผลปรากฏว่า พรรค CPP ได้ที่นั่งในสภาไปทั้งสิ้น 68 ที่นั่ง ขณะที่พรรค CNRP ได้ไปทั้งหมด 55 ที่นั่ง ในสภาผู้แทนราษฎร
พรรค CNRP ถูกศาลสูงสั่งยุบพรรคเมื่อวันที่ 16 พ.ย. หลัง นายแกม สุขา หัวหน้าพรรคที่รับช่วงต่อจาก นายสม รังสี ถูกจับกุมตัวในวันที่ 3 ก.ย. และถูกตั้งข้อหากบฏทรยศชาติ จากการกล่าวหาว่า นายแกม สุขา สมคบคิดกับต่างชาติในความพยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาล
ส่วน นายสม รังสี ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 2558 เพื่อเลี่ยงโทษจำคุกอย่างน้อย 8 ปี จากคดียั่วยุปลุกปั่น และคดีหมิ่นประมาท.