เอเอฟพี - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คนในภาคเหนือของพม่าวันนี้ (12) เมื่อกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์โจมตีฐานของกองกำลังรักษาความมั่นคงและกาสิโนในพื้นที่ติดชายแดนจีน เหตุความไม่สงบที่ปะทุขึ้นครั้งรุนแรงที่สุดในช่วงไม่กี่ปีนี้ ที่บ่อนทำลายความพยายามของรัฐบาลที่สร้างสันติภาพในประเทศ
นักปกป้องสิทธิมนุษยชนระบุว่าการปะทะกันในภาคเหนือทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่ประชาคมโลกมุ่งความสนใจไปที่วิกฤติโรฮิงญาในภาคตะวันตกของประเทศ
ทหารปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าดำเนินการกวาดล้างชาติพันธุ์กับชนกลุ่มน้อยไร้สัญชาติในรัฐยะไข่
กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) หนึ่งในกลุ่มก่อความไม่สงบไม่กี่กลุ่มที่ยังคงจับอาวุธต่อสู้เรียกร้องการปกครองตนเองในภาคเหนือ ระบุว่ากองกำลังได้ดำเนินการปฏิบัติการในวันเสาร์ (12) ขณะที่รัฐบาลและแหล่งข่าวทหารยืนยันยอดผู้เสียชีวิต
ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอจากการต่อสู้ถูกส่งต่อกันบนสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นกลุ่มชายติดอาวุธกระจายทั่วถนนในย่านที่พักอาศัยขณะที่ทหารฝ่ายกลุ่มกบฎหลบอยู่หลังรถยนต์ เสียงปืนดังก้องผ่านอากาศ ขณะที่รถพยาบาลเข้ารับผู้ได้รับบาดเจ็บ
“มีประชาชน 19 คน ถูกสังหารในการต่อสู้” เจ้าหน้าที่จากกองทัพระบุ และว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน
ซอ เต โฆษกรัฐบาลพม่าโพสเฟซบุ๊กว่า ผู้เสียชีวิต 19 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย และสมาชิกทหารกองหนุน 3 นาย ส่วนอีก 15 คน เป็นพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย
“การโจมตีที่มีเป้าหมายเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่การเรียกร้องสิทธิชาติพันธุ์ มันเป็นเพียงการโจมตีของผู้ก่อการร้าย” ซอ เต กล่าว
คำแถลงที่โพสลงบนหน้าเพจของพล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า ระบุว่ากลุ่มทหารกำลังติดตามผู้ก่อการร้าย
โฆษก TNLA กล่าวกับเอเอฟพีว่าพวกเขาโจมตีฐานร่วมของทหารและทหารกองหนุน และกาสิโนที่ตั้งอยู่นอกเมืองมูเซ รัฐชาน และตามถนนที่มุ่งไปยังเมืองลาเชียว
“เราต่อสู้เพราะการสู้รบอย่างหนักในภูมิภาคของเราและการโจมตีรุนแรงในรัฐกะฉิ่น” โฆษก TNLA กล่าว โดยอ้างถึงการเผชิญหน้าครั้งล่าสุดในรัฐทางเหนือสุดของประเทศระหว่างทหารและกองทัพกะฉิ่นอิสระ
“เรารู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของพลเรือน เราเสียใจ แต่มันยากที่จะพูดว่าพวกเขาถูกสังหารระหว่างการต่อสู้อย่างไร” โฆษก TNLA กล่าว
TNLA ระบุบนเพจเฟซบุ๊กว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 6 คน ส่วนสมาชิกทหารกองหนุนที่รัฐให้การสนับสนุนถูกสังหาร 25 นาย มากกว่าตัวเลขของฝ่ายรัฐบาล
เมืองมูเซในรัฐชานตั้งอยู่ระหว่างพม่าและมณฑลหยุนหนานของจีน เป็นแหล่งการค้าใหญ่ระหว่างสองประเทศ โฆษก TNLA ระบุว่าเขาเชื่อว่าชาวเมืองบางส่วนได้หลบหนีข้ามชายแดนไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าสมาชิกของกองทัพกะฉิ่นอิสระ หรือ KIA มีส่วนในการโจมตีครั้งนี้หรือไม่ แม้โพสของผู้บัญชาการทหารสูงสุดระบุว่า KIA มีส่วนร่วม
ผู้พลัดถิ่นมากกว่า 100,000 คน เวลานี้พักอยู่ตามค่ายต่างๆ ในรัฐกะฉิ่นและรัฐชาน ตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง KIA และกองทัพยุติลงในปี 2554
ผู้ที่หลบหนีความรุนแรงพักหลบภัยอยู่ในเต็นท์ และแม้กระทั่งในโบสถ์ในรัฐกะฉิ่น ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์ ด้วยกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกบฎกล่าวหาว่าทหารขัดขวางความช่วยเหลือ.
.
.
.