เอเอฟพี - ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่าปฏิเสธว่ากองกำลังทหารของตนได้กระทำการข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาระหว่างการปราบปรามตามคำสั่งของเขา คำกล่าวที่มีขึ้นในที่ประชุมกับคณะผู้แทนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในกรุงเนปีดอ
พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย เป็นผู้นำกองทัพที่ถูกสหประชาชาติกล่าวหาว่ากระทำการกวาดล้างชาติพันธุ์ รวมทั้งข่มขืนและสังหารพลเรือนในปฏิบัติการกวาดล้าง ที่กองทัพระบุว่ามุ่งเป้าไปยังผู้ก่อการร้ายโรฮิงญา
การปราบปรามเริ่มขึ้นในเดือนส.ค. 2560 และเป็นผลให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 700,000 คน อพยพหลบหนีไปบังกลาเทศ และทางการพม่าปฏิเสธการเข้าถึงพื้นที่ปราบปรามไม่นานหลังเกิดวิกฤติ
ในค่ำวันจันทร์ (30) คณะผู้แทนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้พบหารือกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ควบคุมเรื่องความมั่นคงทั้งหมดในประเทศ
“กองทัพมีระเบียบวินัสเสมอ และดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย” พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย กล่าวกับคณะ
ผู้หญิงและเด็กหญิงชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศรายงานถึงเหตุการณ์ความรุนแรงทางเพศ รายงานที่ได้รับการตรวสอบโดยผู้ตรวจสอบความขัดแย้ง แต่พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย กล่าวว่า กองกำลังของเขาไม่มีประวัติการล่วงละเมิดทางเพศ
“มันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ตามวัฒนธรรมและศาสนาของประเทศเรา” ผบ.สส.พม่า กล่าว และเสริมว่าใครก็ตามที่พบว่ากระทำความผิดจะถูกลงโทษ
มิน ออง หล่าย ยังย้ำว่าพม่าพร้อมที่จะรับผู้ลี้ภัยกลับประเทศ ผู้ลี้ภัยที่ตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่อาศัยตามข้อตกลงส่งกลับประเทศกับบังกลาเทศ
ในบ่ายวันจันทร์ (30) นางอองซานซูจีได้พบหารือกับคณะของสหประชาชาติเช่นกัน และได้เรียกร้องให้คณะเข้าใจถึงความซับซ้อนของปัญหา และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศ.