MGR ออนไลน์ -- แอร์บัส A321 สายการบินเวียดนาม พาผู้โดยสารกว่า 200 คน จากนครโฮจิมินห์ ลงจอดที่สนามบินนานาชาติกามแรง (Cam Ranh) ในภาคกลางของประเทศบ่ายวันอาทิตย์ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยความเข้าใจผิดของนักบินสัญชาติอเมริกัน โดยทางวิ่งดังกล่าวอยู่ระหว่างปิดใช้งานเพื่อซ่อมแซม ผู้โดยสารหลายคนให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความตื่นตระหนกตกใจ เมื่อทราบเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะหลังลงจากเครื่องแล้ว ได้พบว่ารอบๆ มีกองทรายสูงๆเต็มไปหมด และ กำแพงกั้นสุดทางรันเวย์ ก็อยู่ห่างออกไปไม่กี่สิบเมตรข้างหน้า
ตามรายงานของซเวินเหวียด (คนเวียดนาม) ออนไลน์ เที่ยวบิน VN7344 พร้อมผู้โดยสาร 203 คนขึ้นจากสนามบินเตินเซินเญิ๊ต (Tân Sơn Nhất) เวลา 14.00 น. หลายคนบนเครื่องเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนามที่เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัว หรือไปเที่ยวหาดทราย ที่เมืองญาจาง (Nha Trang) เนื่องในวันหยุดยาว 28 เม.ย.-1 พ.ค. วันแรงงานสากล -- เครื่องลงจอดตามกำหนดเวลา 15.10 น.
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 14.53 กัปตัน และ ลูกเรือ 6 คน ได้นำเครื่องไปลงรันเวย์หมายเลข 2 ที่ยังไม่เปิดใช้งาน -- กัปตันเที่ยวบินนี้เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม ชาวเวียดนาม เข้าทำงานกับเวียดนามแอร์ไลน์ส 1 ม.ค.ปีนี้
สื่อออนไน์สภาษาเวียดนามหลายสำนัก รายงานข้อมูลตามการแถลงของท่าอากาศยานปลายทาง เวลาที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้มีอะไรผิดปรกติ ลมฟ้าอากาศเป็นปรกติ เครื่องมืออุปกรณ์ทุกชิ้น ระบบการสื่อสารล้วนทำงานอย่างปรกติ ผู้โดยสารทุกคนสุขภาพสมบูรณ์ดี ไม่มีผู้ใดป่วยฉุกเฉิน จนเป็นสาเหตุให้เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉิน -- แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเพราะนักบินเข้าใจผิด คิดเอาเองว่าเป็นรันเวย์ ที่สนามบินให้ลงจอด
.
ซเวีนเหวียดรายงานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความงุนงงสงสัยของทุกคนที่หอควบคุมการบิน -- หลังเครื่องบินลงจอด อีกประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา ท่าอากาศยานนานาชาติกามแรม จึงได้ส่งรถบัสไปรับผู้โดยสาร พร้อมกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดเข้าสู่อาคาร
หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ถึงแม้จะเป็นวันหยุดของสำนักงานรัฐบาลก็ตาม องค์การการบินได้ประกาศคำสั่ง พักงานกัปตันกับลูกเรือบนเที่ยวบิน VN7344 ชุดนี้ทั้งหมด และ ต่อมาก็มีอีกคำสั่งหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ท่ากาศยานกามแรง ที่กำลังปฏิบัติงานในขณะเกิดเหตุการณ์นี้ ต้องพักงานหมดทุกคนเช่นเดียวกัน ตั้งแต่ระดับบริหารลงไปจนถึงเจ้าหน้าที่เทคนิค พร้อมทั้งสั่งให้หน่วยงานต้นสังกัด ทำการสอบสวบสวนหาสาเหตุแห่งความผิดพลาดที่ "เป็นอันตรายต่อการบินเป็นอย่างยิ่ง" หาข้อสรุปออกมา และ นำเสนอมาตรการที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อป้องกันมิให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
"เป็นความผิดพลาดที่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารอย่างยิ่งยวด ถ้าหากมียานพาหนะ เครื่องจักรหรือรถเครน ยังทำงานอยู่บนรันเวย์ หรืออยู่ข้างทาง เที่ยวบินนี้ก็อาจจะเป็นโศกนาฏกรรมขึ้นมาทันที" ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินชาวเวียดนามคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ซเวินเหวียดออนไลน์
วันจันทร์ 30 เม.ย.นี้ องค์การการบินพลเรือนเวียดนาม ยังจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาชุดหนึ่ง นำโดยนายโห่ มีง เติ๊น (Hồ Minh Tấn) หัวหน้าสำนักงานมาตรฐานความปลอดภัย โดยมีผู้แทนจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งคณะกรรมการการท่าอากาศยาน ศูนย์บริการท่าอากาศยานและอื่นๆ ร่วมเป็นกรรมการ เพื่อสอบสวนและระบุสาเหตุของความผิดพลาด.