เอพี - อดีตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกัมพูชาที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศเรียกร้องให้ญี่ปุ่น ที่เป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ใช้อิทธิพลของประเทศโน้มน้าวรัฐบาลฮุนเซนให้รับประกันว่าการเลือกตั้งเดือนก.ค.เป็นประชาธิปไตย
สม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่ถูกยุบพรรค ระบุว่าคาดหวังให้ญี่ปุ่นและประชาคมธุรกิจของญี่ปุ่นส่งข้อความถึงนายกรัฐมนตรีฮุนเซนว่าเขาจำเป็นต้องฟื้นฟูประชาธิปไตย หรือเผชิญกับการโดดเดี่ยว
สม รังสี ได้พบหารือกับเจ้าหน้าที่ทางการเมืองและธุรกิจของญี่ปุ่น ในกรุงโตเกียว เมื่อวันศุกร์ (13) ในความพยายามที่จะแสวงหาการสนับสนุนการกลับคืนสู่ประเทศท่ามกลางการก้าวถอยของประชาธิปไตยก่อนการเลือกตั้งวันที่ 29 ก.ค.
“ญี่ปุ่นมีอิทธิพลแข็งแกร่งที่จะช่วยฟื้นกระบวนการประชาธิปไตย” สม รังสี กล่าวกับนักข่าวในกรุงโตเกียว
สหรัฐฯ และยุโรป ได้ระงับการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น แต่ญี่ปุ่นยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลฮุนเซน ซึ่งสม รังสี กล่าวว่า หากญี่ปุ่นถอนการสนับสนุน ฮุนเซนจะโดดเดี่ยวและกัมพูชาจะเผชิญกับปัญหาอย่างแน่นอน
ฮุนเซนปกครองประเทศมานานกว่า 30 ปี และประกาศความตั้งใจที่จะอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศไปอีกอย่างน้อย 2 สมัย
ญี่ปุ่น ที่เป็นผู้สนับสนุนการฟื้นฟูและสร้างสันติภาพของกัมพูชา ถูกมองว่าตอบสนองเพียงเล็กน้อยต่อการปราบปรามของรัฐบาลที่เกิดขึ้นกับสื่อในประเทศและดำเนินคดีกับนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้กัมพูชาจัดการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม แต่ไม่ได้แสดงความเห็นถึงการกระทำของรัฐบาลต่อฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองในระหว่างหารือกับฮุนเซนในกรุงพนมเปญ
แต่สม รังสี กล่าวว่า เขาเชื่อว่าการตอบสนองอย่างแผ่วเบาของญี่ปุ่นนั้นเป็นเพราะวัฒนธรรมแบบเอเชีย ที่ผู้คนพยายามเลี่ยงที่จะทำให้ผู้อื่นเสียหน้า ดังนั้นจึงใช้วิธีการที่นุ่มนวลและสุขุมรอบคอบมากกว่า
สม รังสี ยังกล่าวว่า บริษัทของญี่ปุ่นที่กำลังทำธุรกิจกับกัมพูชาต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนนี้
“ความไม่แน่นอนอาจก่อให้เกิดอันตรายความเสียหายต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เราต้องการการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเราต้องการนักลงทุนญี่ปุ่น แต่นักลงทุนญี่ปุ่นลังเลที่จะลงทุนในสภาพแวดล้อมเช่นนี้” อดีตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กล่าว
สม รังสี ลี้ภัยตั้งแต่ปลายปี 2558 เพื่อเลี่ยงโทษจำคุกจากคดีหมิ่นประมาท และยังถูกตัดสินความผิดในเดือนธ.ค. จากการแสดงความเห็นบนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับฮุนเซน ส่วนพรรค CNRP ของสม รังสี ถูกศาลสูงสั่งยุบพรรคในเดือนพ.ย. หลังรัฐบาลยื่นคำร้องกล่าวหาว่าพรรคมีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมที่เป็นกบฎทรยศชาติ.