xs
xsm
sm
md
lg

แอบมาส่องซอยนานา นักข่าวสาวเวียดลุ้นฮานอยโฮจิมินห์ทำแบบไทย หยุดไล่จับน้องๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>ภาพเมื่อปี 2558 โดยสำนักข่าวเอเอฟพี แสดงให้เห็นหญิงสาว ยืนรอคอยลูกค้า อยู่ในมุมตะคุ่มๆ ริมถนนสายหนึ่ง ในย่านใจกลางกรุงฮานอย  เป็นอีกปีหนึ่งที่ทางการเร่งปราบปราม หญิงขายบริการทางเพศ ออกจากท้องถนนเมืองหลวง -- ดูจะได้ แต่สาวๆ ก็ไปโผล่ตามสถานที่ต่างๆ ที่สามารถแอบแฝงให้บริการได้. -- Agence France-Presse/FILES. </a>

MGRออนไลน์ -- นักเขียนข่าว-หญิงชาวเวียดนามคนหนึ่ง เดินทางมาไทย และ ไปดูๆ ย่านซอยนานา ซึ่งเป็นแหล่งค้าเนื้อสด ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในเมืองฟ้าอมร เธอได้พบพูดคุยกับ "ริน" สาวแปลงเพศที่นั่น -- เมื่อได้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ความเป็นอยู่ ของเหล่าหญิงขายบริการในไทย รายได้ของพวกเธอ กับ รายได้รวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศนี้ เธอเสนอให้รัฐบาลเวียดนามเอาอย่างไทย ในการปฏิบัติต่อสาวๆ ที่ทุกวันนี้ คอยวิ่งหลบตำรวจตามท้องถนน ทั้งในนครโฮจิมินห์ และกรุงฮานอย

นักเขียนที่ใช้นามว่า Khai Don เขียนบอกเล่าเรื่องราว ของสาวบริการย่านโคมแดง ถนนสุขุมวิท ในเว็บไซต์ข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรส และ สื่อสำนักนี้ออกตัวเอาไว้ แต่เนิ่นว่าทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน

Khai Don บอกว่าซอยนานา อยู่ไม่ไกลจากซอยเคาบอย นักเที่ยวกลางคืนสามารถเดินถึงกันได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ทั้งในเมืองพัทยา และ กรุงเทพฯ -- หญิงสาวแต่ละคน มีรายได้เฉลี่ย 5,000 บาท (160 ดอลลาร์) ต่อคืน -- หรือ 17 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำ -- ทั้งนี้เป็นตัวเลขล่าสุด เมื่อปีที่แล้ว

ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขไทย ทั่วประเทศมีหญิงขายบริการอยู่ราว 120,000 คน และ ปี 2558 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ทำรายได้ให้ประเทศ 6,400 ล้านดอลลาร์ -- แน่นอนว่า รายได้จากการขายบริการทางเพศ ของสาวๆ ก็รวมอยู่ในนั้น

"มันยากที่จะพูดว่า การค้าประเวณีในประเทศไทยนั้นถูกกฎหมาย ประเทศนี้มีกฎหมายอย่างน้อย 3 ฉบับที่บัญญัติให้ การขายร่างกาย และ การใช้เรื่องเพศ ในการหารายได้ เป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อปี 2556 กระทรวงยุติธรรมใของไทย ได้พยายามจะทำให้อาชีพโสเภณี ถูกกฎหมาย เพื่อจะจัดเก็บภาษีได้ แต่แล้วก็ต้องพ่ายต่อประชามติ ที่ยึดถือคุณค่าทางศีลธรรมรรยา ที่มีสืบต่อกันมา"

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนบอกว่า ตำรวจทั้งที่เมืองพัทยาและกรุงเทพฯ ต่างก็ปล่อยๆ มือ อนุญาตให้แหล่งโคมแดงแห่งต่างๆ สามารถปรากฏ ในแผนที่การท่องเที่ยวได้ และ สาวแปลงเพศอย่าง "ริน" มีเงินส่งกลับไปจุนเจือครอบครัว ที่บ้านของเธอทางภาคเหนือได้ ซึ่งเธอได้หนีการถูกดูหมิ่นดูแคลนไปจากที่นั้่น

"บรรดาเจ้าหน้าที่พากันปิดหูปิดตา ถือการบริการทางเพศ เป็นแค่การตกลงกันสำหรับคืนเดียว และ ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์" Khai Don เขียน
.
<br><FONT color=#00003>ผู้เขียนบอกว่า เจ้าหน้าที่ไทยมองการค้าประเวณี เป็นแค่ ความตกลงในชั่วคืน ที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์  แต่ในเวียดนาม หญิงขายบริการเป็น สิ่งชั่วร้ายทางสังคม บ่อยครั้งเมื่อถูกจับได้ จะถูกใส่กุญแจมือ ราวกับอาชญากร -- เหตุใดไม่ปฏิบัติต่อพวกเธอ เหมือนในย่านโคมแดงของไทยบ้าง? </a>
<br><FONT color=#00003>ในนครโฮจิมินห์ก็ไม่ต่างกัน ไล่พ้นจากริมถนน ไปโผล่ในออนไลน์ บ้างก็ไปแฝงอยู่ตามโรงแรม ร้านอาหาร คาราโอเกะ แม้กระทั่งร้านตัดผมชาย ผู้เขียนบอกว่า การไล่จับแก้ปัญหาไม่ได้. </a>
ผู้เขียนอ้างคำพูดของ "ริน" ที่ว่า -- หญิงขายบริการทางเพศเช่นเธอ ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน ในเรื่องการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ และ ได้รับการคุ้มครองจาก ความรุนแรงทางเพศ กับการค้ามนุษย์

"ย่านโคมแดงในประเทศไทย ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากตำรวจ เป็นมั่นเหมาะ เพื่อให้มีหลักประกันว่า หญิงขายบริการจะม่ถูกทุบตี หรือ ถูกล่วงละเมิด -- สาวๆ เหล่านี้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่า เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจ" Kahi Don เขียน

เมื่อมองกลับไปยังเวียดนาม นักเขียนผู้นี้กล่าวว่า -- หญิงขายบริการถูกมองเป็น "สิ่งชั่วร้ายทางสังคม" และ อ้างคำพูดของนายเหวีนซวนเหลิบ (Nguyễn Xuân Lập) อธิบดีกรมปราบปรามสิ่งชั่วร้ายทางสังคม ของกระทรวงแรงงาน ที่ระบุว่า "ไม่อาจจะถือการค้าประเวณี เป็นอาชีพหนึ่งได้ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่เร็วไปกว่าปี 2563"

นายเหลิบยังกล่าวอีกว่า ทางการเวียดนามช่าง "มีความกรุณา" มากจริงๆ ที่ไม่เลือกปฏิบัติ และ ไม่ประจานหญิงขายบริการ ต่อสาธารณชน หากถูกจับได้ พวกเธอก็เพียงแค่ถูกปรับ -- ผู้เขียนบอกว่า ทัศนะเช่นนี้ทำให้ต้องเป็นห่วงสวัสดิภาพ ความปลอดภัยของสาวๆ ที่ยืนแอบอยู่ในมุมมือ ตามท้องถนน หรือ อยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ รอคอยลูกค้า -- มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สบาย ต่างๆไปจาก ที่รู้สึกต่อ "ริน" ที่ซอยนานา

ตัวเลขเมื่อปี 2559 -- ทั่วเวียดนามมีหญิงขายบริการทางเพศเกือบๆ 101,300 คน ต่ำกว่าในประเทศไทยไม่มาก ซึ่งเธอไม่คิดว่า การข่มขู่หรือคอยเอาผิดกับหญิงสาวเหล่านี้ จะช่วยกำจัดการดำรงอยู่ ของพวกเธอได้ และ ไม่ว่าทางการจะอธิบายอย่างไรก็ตาม การค้าประเวณีก็เป็น "งาน" ชนิดหนึ่งอย่างจริงแท้แน่นอน -- พวกเธอสู้โดยลำพัง เสี่ยงต่อโรคร้าย เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิด การใช้ความรุนแรง โดนกดขี่ขูดรีด กระทั่งการค้ามนุษย์

ผู้เขียนบอกอีกว่า ยังไม่รู้อีกเมื่อไร การค้าประเวณีจะเป็นสิ่งถูกกฎหมายในเวียดนาม หรือ อาจจะไม่มีโอกาสเลยก็ได้ และ ความไม่แน่ไม่นอนนี้ ได้ทำให้เกิดผลลัพธ์ตามมามากมาย เช่น การค้าประเวณีเด็ก การเป็นทาสทางเพศ สิ่งเหล่านี้ครั้งหนึ่งก็เคย เป็นปัญหาในประเทศไทยมาก่อน -- ก่อนที่ย่านโคมแดง จะได้รับการยอมรับ.


กำลังโหลดความคิดเห็น