MGRออนไลน์ -- วาสโก (VASCO) ซึ่งเป็นสายการบินลูก ของเวียดนามแอร์ไลน์ส ต้องประกาศหยุดให้บริการ สามเส้นสำคัญทาง ทางตอนเหนือของประเทศ เป็นเวลา 3 วัน เนื่องจาก "การขัดข้องทางเทคนิค" ซึ่งโดยปรกติเป็นเส้นทางที่ ให้บริการทุกวันวันละ 1 เที่ยว และ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพียงข้ามสัปดาห์ หลังจากสายการบินเดียวกันนี้ ทำให้ผู้โดยสารกว่า 100 คน ต้องติดค้าง อยู่บนเกาะท่องเที่ยว ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งกว่า 200 กิโลเมตร ทางตอนใต้สุดของประเทศ เนื่องจากไม่สามารถส่งเครื่องบินไปรับได้
วาสโกประกาศงดบริการ เส้นทางฮานอย-เดียนเบียน (Dien Bien) ในจ.เดียนเบียน (Điện Biên) ทางตอนเหนือสุด ฮานอย-โด่งเฮ้ย (Đồng Hới) จ.กว๋างบี่ง (Quảng Bình) กับ ฮานอย-วีง (Vinh) จ.เหงะอาน (Nghệ An) ในภาคกลางตอนบน ตั้งแต่วันศุกร์ 30 มี.ค. ไปจนถึง 1 เม.ย.ศกนี้
สายการบินแห่งนี้ ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ "การขัดข้องทางเทคนิค" ดังกล่าว แต่หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ รายงานอ้างแหล่งข่าวที่ระบุว่า เกิดจากระบบปั๊มเชื้อเพลิงเสีย และ เนื่องจากวาสโก เป็นสายการบินเพียงแห่งเดียวในเวียดนาม ที่ใช้เครื่องบินเอทีอาร์ (ATR) ที่ผลิตในฝรั่งเศส จึงไม่สามารถหาอะไหล่จากแหล่งอื่น ภายในประเทศได้ การจัดหาชิ้นส่วนสำคัญนี้จะต้องสั่งนำเข้า และ คาดว่าจะใช้เวลา 3 วัน ในการจัดหาและเปลี่ยนชิ้นส่วน
วาสโก หรือ Vietnam Air Service Company เป็นสายการบินเก่าแก่ และ เป็นบริษัทลูกที่สายการบินแห่งชาติเวียดนาม ถือหุ้น 100% ก่อเกิดจากการเป็นสายการบิน ขนส่งสินค้าและเช่าเหมาลำ พัฒนามาบินประจำเส้นทาง โดย Vietnam Airlines หมายมั่นปั้นมือ จะให้เป็นสายการบินจำหน่ายตั๋วโดยสารราคาถูก แข่งกับเวียตเจ็ทแอร์ (VietJet Air) สายการบินเอกชนใหญ่ที่สุดในประเทศ กับเจ็ตสตาร์แปซิฟิก (JetStar Pacific) ที่ VNA ถือหุ้นใหญ่
อย่างไรก็ตามวาสโกเติบโตช้า และ ยังไม่มีความสามารถ ที่จะแข่งขันในระดับชาติได้ จึงถูกกำหนดให้บินเส้นทางที่ สายการบินแม่เปิดให้บริการแล้วไม่คุ้มทุน หรือ เป็นปลายทางห่างไกล สนามบินมีขนาดเล็ก ต้องใช้เครื่องบินเทอร์โบพร็อพแบบ หรือ เป็นเส้นทางบินระยะสั้นๆ ที่สายการบินอื่น ไม่ได้ให้ความสำคัญ -- กระทั่งบางปลายทาง ที่อยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางความเจริญ วาสโก้แอร์ต้องหยุดบิน หลังจากสายการบินอื่นเปิดบินไปที่นั่น เพราะไม่สามารถจะแข่งขันได้
.
ตามข้อมูลในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ สายการบินแห่งนี้ ให้บริการด้วย ATR72-212A ขนาด 64 ที่นั่งโดยสาร จำนวน 5 ลำ และ ATR72-500 ขนาด 76 ที่นั่งอีก 7 ลำ ซึ่งรุ่นหลังนี้ ทั้งหมดเป็นเครื่องบินเก่า ที่ผ่องถ่ายไปจากเวียดนามแอร์ไลน์สนั่นเอง
วาสโก้แอร์ใช้สนามบินเตินเซินเญิ๊ต (Tân Sơn Nhất) นครโฮจิมินห์ กับสนามบินโนยบ่าย (Nội Bài) ในกรุงฮานอย เป็นศูนย์การให้บริการ ซึ่งทำให้ต้องกระจาย เครื่องบินออกไปประจำ และ ถ้าหากเกิดการขัดข้อง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด บ่อยครั้งจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงทีได้
ปัจจุบันวาสโกเป็นสายการบินแห่งเดียว ที่เปิดบินระหว่างนครโฮจิมินห์ ไปยังเกาะกงด๋าว (Côn Đảo) เกาะใหญ่อันดับสองของประเทศ ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของ จ.บ่าเหรียะ-หวุงต่าว (Bà Rịa-Vũng Tàu) ซึ่งอยู่ใต้ลงไปราว 180 กม.ในทะเลจีนใต้ หรือ ประมาณ 230. กม.จากนครโฮจิมินห์ -- เมื่อก่อนโน้น ทั้งผู้ปกครองฝรั่งเศส และ รัฐบาลไซ่ง่อน ได้ใช้หมู่เกาะที่ห่างไกลแห่งนี้ เป็นที่คุมขังนักโทษการเมือง
กงด๋าวประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยกว่า 10 เกาะ ปัจจุบันกลายเป็นปลายทางท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีหาดทรายขาว ที่สวยงาม และ เป็นแหล่งดำน้ำที่ยังบริสุทธิ์ อีกทั้งเป็นแหล่งตกปลา "บิ๊กเกมส์" ยอดนิยมในย่านนี้ -- โรงแรม 5 ดาวหลายหลัง ผุดขึ้นมาที่นั่น ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เช่นเดียวกับรีสอร์ตหรูริมทะเล
.
วาสโก้เปิดบินไปยังกงด๋าว ตั้งแต่ปี 2547 ด้วยเครื่องบินขนาดเล็ก แต่นักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนขึ้นมากมายในช่วงไม่ถึงสิบปีมานี้
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ ระหว่างปี 2554-2559 จำนวนผู้โดยสาร ที่บินไปยังกงด๋าว เพิ่มขึ้นในอัตราเลข 2 หลัก จำนวนรวมในปี 2559 คือ 325,821 คน และ ตัวเลขปี 2560 ที่รวบรวมยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่าจะสูงถึง 400,000 คน -- กงด๋าวจึงเป็นเส้นทางหลัก ที่ทำให้รายได้ให้แก่วาสโก้ ในขณะที่เครื่องบินไม่พอใช้ ดังจะเห็นได้จาก มีบ่อยครั้งที่ต้องไปหยิบยืม เอทีอาร์ของเวียดนามแอร์ไลน์สไปให้บริการ เส้นทางต่างๆ
อย่างไรก็ตามสัปดาห์กลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารจำนวน 117 คน ไม่สามารถกลับเข้าฝั่งได้ เนื่องจากสายการบินไม่สามารถ หาเครื่องบินไปรับได้ กลายเป็นปัญหาใหญ่ ทำให้ต้องจัดเลี้ยงอาหาร และ จัดหาที่พักแรมคืนให้ หรือ จัดเลื่อนกำหนดการบินให้ ตามมาตรฐานการบินสากล
ในเดือน เม.ย.2559 เวียดนามแอร์ไลน์ส ได้ประกาศโครงการรก่อตั้งสายการบินแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อสกายเวียด (SkyViet Airlines) โดยตั้งอยู่บนพื้นฐาน การปรับโครงสร้างสายการบินวาสโก้ ด้วยวิธี "รีแบรนด์" นั่นเอง -- VNA กล่าวว่า โครงการนี้จะใช้เงินทุน 13.4 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่เห็น มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใดๆ นับแต่นั้่นมา.