MGRออนไลน์ -- สาวเวียดนามอายุ 23 ปีคนหนึ่ง นำภาพผลการผ่าตัดเปลือกตาของเธอ โพสต์ในเฟซบุ๊ก และ ได้รับความสนใจจากชาวออนไลน์หลายหมื่นคน ในช่วงข้ามวันมานี้ -- หลายคนเป็นทุกข์ หลายคนแสดงความเห็นอกเห็นใจ หรือไม่ก็โกรธเคืองคลินิกเสริมความงาม ที่ไม่รับผิดชอบต่อความผิดพลาด -- แทนที่หญิงสาวเคราะห์ร้าย จะได้นัยน์ตา 2 ชั้น กลับเป็นว่าเปลือกตาของเธอกลายเป็นแผลเย็บ ไม่ต่างอะไร กับที่เห็นกันในหนังแนวสยองขวัญ
ชาวเน็ตได้ช่วยกันปกปิด ทั้งชื่อเฟซบุ๊กและชื่อเสียงเรียงนามของสาวเคราะห์ร้าย ที่ทุกคนทราบแต่เพียงว่า เธออาศัยอยู่ในนครโฮจิมินห์ และ ไปใช้บริการจากคลินิกเสริมความงาม ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเขต 3 ของนครใหญ่ เช่นเดียวกันกับหญิงสาวอีกนับร้อยหรือ นับพันคนที่ไม่มี "เหล่าเต๊ง"
เพราะอยากสวย อยากงาม ตามประสาหญิง เธอจึงรวบรวมเงินทองที่สู้อดออม จากการทำงานหนักตลอด 3 ปี เดินเข้าคลิกนิกเสริมความงามแห่งนั้น บอกเล่าความต้องการให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นที่ปรึกษา "แขก" ที่ไปใช้บริการ ได้รับฟัง จากนั้่นก็ทำการนัดหมายไปตรวจร่างกาย ตรวจโรค ตรวงจสุขภาพตามกระบวนการ นำไปสู่การนัดหมาย -- เธอกลับไปอีกครั้ง เดือน ก.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งหมอศัลยกรรมตกแต่งจัดการให้
แต่แทนที่จะได้เห็นนัยน์ตาที่กลมโตขึ้นในเร็ววัน ตามที่หมอให้คำมั่น แผลกรีดที่เปลือกตากลับรักษาไม่หาย และ กลับให้หมอที่คลิกนิกแห่งเดียวกัน ดูแลอีกหลายครั้ง โดยหมออธิบายแต่เพียงว่า แผลกรีดของเธอทั้งสองข้างติดเชื้ออะไรบางอย่าง ที่ไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของคลิกนิก -- หมอรักษาแผลให้หายได้ ในเดือนถัดมา แต่ฝีเย็บกลับไม่หายหรือลบเลือนไป เนื่องจากความผิดปรกติของเนื้อเยื่อ ซึ่งทำให้หญิงสาวที่กำลังสวยงามตามวัย ต้องกลายเป็นอสูรกาย คอยหลบๆ ซ่อนๆ
ตามรายงานของเดิ๊ตเหวียดออนไลน์ -- หญิงสาวรายนี้เขียนในเฟซบุ๊กว่า การผ่าตัดทำเหล่าเต๊งที่ล้มเหลว ทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากงาน ด้วยความอับอาย และ ไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอะไรจากใครได้ เนื่องจากไปเซ็นสัญญาผูกมัดตัวเองกับคลิกนิก ซึ่งระบุว่า ทั้งหมดเป็นความสมัครใจ และ มีความเสี่ยงที่จะต้องยอมเสี่ยง -- ด้วยความสมัครใจเช่นเดียวกัน
.
เธอเล่าว่า หลังจากสิ้นหวัง ก็ได้ไปปรึกษาหมอตามคลินิก เสริมความงามแห่งอื่นๆ อีกหลายแห่ง เพื่อหาทางนำเปลือกตาของเธอกลับคืนมา แม้จะเป็นตาชั้นเดียวก็ตาม แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า คุณหมอหลายคนบอกว่า ถ้าจะทำ ก็ต้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ ไม่ใช่การเสริมความงามอีกต่อไป ค่าใช้จ่ายแพงขึ้น ทั้งยังมีอัตราเสี่ยงไม่ต่างกัน
เธอเก็บตัวอยู่เป็นเวลาหลายเดือน ก่อนจะตั้งหลักได้ -- ทำงานที่บ้าน ขายสินค้าประเภทสิ่งของเครื่องใช้ กับเครื่องสำอาง ทางออนไลน์ แต่ไม่กล้าออกไปไหนมาไหน แม้กระทั่งการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ ก็ให้น้องสาวช่วยทำให้
ในที่สุดจึงตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมา พร้อมเผยแพร่ภาพการผ่าตัดเหล่าเต๊งของเธอ ในโลกออนไลน์ เพื่อให้เป็นสิ่งเตือนใจ แก่สาวๆ ที่อยากสวยอยากงามทั้งหลาย ซึ่งเธอเองกล่าวว่า บางครั้งการปล่อยไว้ตามธรรมชาติ ไม่ว่าใครจะดูขี้ริ้วขี้เหร่อย่างไร -- แท้จริงกลับดูดีกว่า "ไปทำ" เสียอีก.