รอยเตอร์ - หลังการประกาศว่า ประธานาธิบดีถิ่น จอ ของพม่า ลาออกจากตำแหน่งเนื่องด้วยปัญหาสุขภาพในวันนี้ (21) เป็นที่คาดกันว่า ผู้ที่จะมารับตำแหน่งแทนคือพันธมิตรใกล้ชิดของนางอองซานซูจี ความเคลื่อนไหวที่ไม่มีแนวโน้มว่าจะกระทบต่ออำนาจในประเทศที่กองทัพยังคงทรงอิทธิพล
สำนักงานประธานาธิบดีพม่า ระบุว่า ถิ่น จอ ลาออกเพื่อหยุดพักจากหน้าที่ และความรับผิดชอบต่างๆ ขณะที่โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางอองซานซูจี ระบุว่า วิน มี้น (Win Myint) ผู้ที่จงรักภักดีต่อนางซูจี และดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร น่าจะเข้ารับตำแหน่งแทนถิ่น จอ และเวลานี้ วิน มี้น ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานสภาฯ แล้ว
“เขามีความภักดี และเป็นสมาชิกของพรรค NLD ตั้งแต่พรรคก่อตั้งขึ้น” อ่อง ชิน โฆษกพรรค NLD กล่าว และกล่าวยกย่องการทำงานของวิน มี้น ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ทำงานกับนางอองซานซูจี อย่างดีเยี่ยมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นจากสุขภาพที่อ่อนแอของถิ่น จอ ไม่เกี่ยวข้องต่อวิกฤตที่เกิดขึ้นจากการปราบปรามของทหาร ที่ผลักดันชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายแสนคนไปบังกลาเทศ และการคาดเดาเกี่ยวกับสุขภาพที่ย่ำแย่ของถิ่น จอ นั้นเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จากน้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว และเห็นได้
“การหารือเกี่ยวกับการแทนที่ตำแหน่งเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น นี่เป็นสิ่งที่คาดกันไว้ และคงมีผลกระทบต่อสมดุลทางการเมืองในพม่าอย่างจำกัด” หลิว ยุน นักวิเคราะห์การเมืองจากบริษัทที่ปรึกษาในจีน กล่าว
นักวิเคราะห์ ระบุว่า ด้วยบทบาทของประธานาธิบดีนั้นไม่มีอิทธิพลเท่ากับการตัดสินใจของซูจี ดังนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความเคลื่อนไหวนี้จึงมีจำกัด
ในช่วงไร้ผู้ปกครองประเทศ ตามรัฐธรรมนูญแล้ว รองประธานาธิบดี 2 คน จะยังคงทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี จนกระทั่งผู้นำคนใหม่ได้รับเลือกจากรัฐสภาภายใน 7 วันทำการ
“ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าผลของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร พรรค NLD มีกลุ่มที่เข้มแข็ง และครองเสียงส่วนใหญ่ในสภา ดังนั้น ใครก็ตามที่ได้รับเลือกเป็นผู้สมัครจากสภาล่างจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป” ริชาร์ด ฮอร์เซย์ อดีตเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ และนักวิเคราะห์ที่ประจำอยู่ในนครย่างกุ้ง กล่าว
ในระหว่างนี้ มี้น ส่วย ที่ได้รับแต่งตั้งจากทหารทำหน้าที่รองประธานาธิบดี จะทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี
หนึ่งในคำถามสำคัญที่พม่ากำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ ตามการระบุของฮอร์เซย์ คือ รักษาการประธานาธิบดีมี้น ส่วย จะทำอะไรในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะเขามีอำนาจที่จะทำอะไรได้หลายอย่าง
ฮอร์เซย์ กล่าวว่า ในขณะที่ มี้น ส่วย จะเป็นผู้บริหารสูงสุดแม้ไม่มากไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ แต่อาจจะสร้างความวิตกกังวลให้แก่บางคนในพรรค NLD ที่ต้องมีรองประธานาธิบดีสายทหารดูแลประเทศ
นักการทูตในย่างกุ้ง กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างซูจี และผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย มีความไม่ไว้วางใจและขาดการสื่อสารที่เปิดกว้างและเป็นประจำ ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นความเสี่ยงแม้ในการเปลี่ยนแปลงที่เล็กที่สุดต่อโครงสร้างผู้นำก็ตาม
มี้น ส่วย เป็นอดีตนายพลเกษียณราชการที่คุมหน่วยข่าวกรองทหารในสมัย พล.อ.อาวุโส ตาน ฉ่วย เมื่อตาน ฉ่วย สั่งปราบปรามการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารนำโดยพระสงฆ์ในปี 2550 มี้น ส่วย เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษในนครย่างกุ้ง.