โรฮิงญาส่ายหน้า ไม่ขอกลับพม่าหากไม่ได้อยู่หมู่บ้านเดิม

เอเอฟพี - โรฮิงญาที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ไร้ผู้ครอบครองตามแนวชายแดนหลังหลบหนีออกจากพม่า เผยว่า จะยอมรับการส่งกลับประเทศต่อเมื่อได้กลับไปยังหมู่บ้านเดิมของตนเองเท่านั้น แกนนำท้องถิ่นกล่าววันนี้ (18) และปฏิเสธการย้ายไปอยู่ในค่ายพักด้วยความวิตกว่าจะถูกจำกัดขอบเขตเป็นระยะเวลานาน

โรฮิงญาราว 700,000 คน ต้องอพยพหลบหนีไปบังกลาเทศตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค. จากการปราบปรามของทหารที่อ้างว่าตั้งใจจะกำจัดกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยมุสลิมในตอนเหนือของรัฐ แต่สหประชาชาติ ระบุว่า การปราบปรามที่เกิดขึ้นเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงญา ข้อกล่าวหาที่รัฐบาลพม่าปฏิเสธ

จากการไหลทะลักของผู้อพยพเป็นจำนวนมาก ทางการบังกลาเทศต้องการให้พม่ารับชาวโรฮิงญาเหล่านี้กลับ และทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันที่จะเริ่มส่งผู้ลี้ภัยกลับในเดือน ม.ค. แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีโรฮิงญาแม้แต่คนเดียวเดินทางกลับไป

ตั้งแต่เดือน ส.ค. มีโรฮิงญาหลายพันคนอาศัยอยู่ในเต็นท์ที่ตั้งอยู่นอกรั้วลวดหนามที่กั้นเขตแดนไว้อย่างคร่าวๆ ระหว่างพม่า และบังกลาเทศ โดยพึ่งอาหารที่ได้รับแจกจากเอ็นจีโอ

เจ้าหน้าที่พม่ากำลังกดดันอย่างหนักให้โรฮิงญาเหล่านี้กลับประเทศ ทั้งยังเพิ่มกำลังทหารในฝั่งรั้วของตนโดยกล่าวหาว่ากลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาแทรกซึมอยู่ในค่าย

แม้ว่ากองกำลังทหารจะปรากฏตัวในพื้นที่มากขึ้นหรือใกล้ถึงช่วงฤดูมรสุม แกนนำค่ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญากลับกล่าวต่อนักข่าวว่า พวกเขาจะไม่ก้มหัวต่อแรงกดดันที่จะให้พวกเขาเดินทางกลับ หรือย้ายเข้าไปในบังกลาเทศ

“เราไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าไปในฝั่งบังกลาเทศ เราไม่ใช่เบงกาลี เราเป็นพลเมืองพม่า” ดิล โมฮัมหมัด อายุ 51 ปี กล่าวกับนักข่าวผ่านรั้วลวดหนามจากพื้นที่ไร้ผู้ครอบครอง

ดิล กล่าวว่า ชาวบ้านราว 6,000 คน จะกลับไปพม่าก็ต่อเมื่อพวกเขาได้รับการรับรองความปลอดภัย การชดเชยสำหรับบ้านที่ถูกเผาในการปราบปรามของทหาร และได้รับอนุญาตให้ตั้งรกรากในหมู่บ้านเดิมของตัวเอง

“เราไม่ต้องการกลับไปอยู่ที่ค่ายพักที่เจ้าหน้าที่พม่าสร้างขึ้นสำหรับดำเนินการต่อผู้ลี้ภัยที่เดินทางกลับ” ดิล กล่าว

ความหวาดกลัวเกิดขึ้นว่าค่ายพัก และหมู่บ้านที่กำลังสร้างขึ้นใหม่สำหรับผู้เดินทางกลับนั้นจะกลายเป็นศูนย์กักกันระยะยาว

โรฮิงญามากกว่า 120,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในค่ายพักผู้พลัดถิ่นภายในประเทศจากเหตุความรุนแรงระหว่างชุมชนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และบรรดาโรฮิงญาที่อยู่ในค่ายดังกล่าวถูกจำกัดความเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวด

พม่าปฏิเสธแผนที่จะควบคุมตัวโรฮิงญาไว้

“เราไม่มีวิสัยทัศน์ หรือความตั้งใจที่จะเก็บตัวพวกเขาไว้เป็นเวลานาน” เย ตุ๊ต ผู้บริหารเมืองหม่องดอ กล่าวต่อนักข่าววานนี้ (17).