เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่พม่าในรัฐยะไข่เผยว่าผู้ลี้ภัยโรฮิงญาที่กลับประเทศจะไม่ถูกคุมตัวอยู่ในค่ายพักที่สร้างขึ้นใหม่ไปตลอดชีวิต ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มสูงเกี่ยวกับกระบวนการส่งผู้ลี้ภัยกลับ
พม่าระบุว่าพร้อมที่จะรับผู้ลี้ภัยที่ข้ามแดนไปฝั่งบังกลาเทศกลับประเทศ และได้สร้างศูนย์รับและค่ายส่งผ่านสำหรับผู้ลี้ภัยที่เดินทางกลับ แต่ยังไม่มีโรฮิงญาข้ามแดนกลับมา ขณะที่สหประชาชาติเตือนว่า พม่าต้องดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อรับประกันความปลอดภัยของชนกลุ่มน้อยที่ตกเป็นเป้าในการปราบปรามของทหาร ซึ่งสหประชาชาติระบุว่าเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์
กลุ่มสิทธิมนุษยชนยังแสดงความวิตกเกี่ยวกับวิธีการที่ทางการพม่ากำลังเปลี่ยนแปลงรัฐยะไข่ ด้วยการให้เจ้าหน้าที่เข้าปรับที่ดินบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านโรฮิงญาที่ถูกเผาไปในช่วงการปราบปราม และสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นใหม่ รวมทั้งด่านรักษาความมั่นคง
นักข่าวเอเอฟพีระบุว่าเห็นการก่อสร้างเกิดขึ้นในพื้นที่ คนงานก่อสร้างกำลังสร้างบ้านสำเร็จรูปตามแนวถนนที่ทอดยาวไปยังเมืองหม่องดอ
เย ตุ๊ต ผู้บริหารเมืองหม่องดอ ยืนยันว่าผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่เดินทางกลับประเทศท้ายที่สุดจะตั้งรกรากใกล้กับหมู่บ้านเดิมของตัวเองหลังพักอยู่ในค่ายเพียงระยะหนึ่ง
“ผมไม่สามารถขอให้พวกเขาอยู่ที่ค่ายได้ตลอดไป เพราะเราไม่สามารถจัดการเช่นนั้นได้ เราไม่มีวิสัยทัศน์หรือความตั้งใจใดๆ ที่จะเก็บพวกเขาไว้เป็นระยะเวลานาน รัฐบาลจะส่งพวกเขากลับไปยังหมู่บ้านเดิมของพวกเขาหรือพื้นที่ใกล้ๆ” เย ตุ๊ต กล่าว
พม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ากำลังพยายามจะลบความสัมพันธ์ของโรฮิงญากับรัฐยะไข่ และยืนยันว่าการปราบปรามของทหารมุ่งเป้าโจมตีที่กลุ่มก่อการร้ายมุสลิม.