รอยเตอร์ - รัฐบาลพม่าดูเหมือนว่าจะดำเนินนโยบายความอดอยากในรัฐยะไข่ เพื่อบีบบังคับให้ประชากรมุสลิมโรฮิงญาที่เหลืออยู่ต้องอพยพหลบหนี ตามการเปิดเผยของผู้สืบสวนของสหประชาชาติ
นอกจากนั้น ทหารยังเริ่มโจมตีระลอกใหม่ในรัฐกะฉิ่น และรัฐกะเหรี่ยง ยางฮี ลี ทูตพิเศษของสหประชาชาติกล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติในเจนีวา
ลี กล่าวว่า การกระทำทารุณโหดร้ายต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และยังเรียกร้องให้คณะมนตรีตั้งคณะทำงานในบังกลาเทศ พื้นที่ที่ชาวโรฮิงญาอาศัยลี้ภัยมากกว่า 650,000 คน เพื่อรวบรวมหลักฐานสำหรับการพิจารณาคดีที่มีศักยภาพ
ถิ่น ลิน ทูตพม่าประจำสหประชาชาติปฏิเสธคำกล่าวหาของลี และเรียกร้องให้คณะมนตรีไล่ลีออกจากตำแหน่ง
ลี กล่าวว่า ความรุนแรงในรัฐยะไข่บดบังทุกอย่างที่เกิดขึ้นในพม่าในช่วงหลายปีมานี้ ที่รัฐบาลได้ต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในรัฐชาน รัฐกะเหรี่ยง และรัฐกะฉิ่น
ลี ยังได้ข้อมูลว่า กองกำลังทหารเพิ่มการโจมตีภาคพื้นดินเมื่อสัปดาห์ก่อน ด้วยการใช้ปืนใหญ่ในพื้นที่ทำเหมืองอำพัน และเหมืองทองของเมืองตะไน นอกจากนั้น ทหารพม่ายังรุกเข้าไปในเมืองมือตรอว์ ของรัฐกะเหรี่ยง พื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) แม้ทั้งสองฝ่ายจะมีข้อตกลงหยุดยิงก็ตาม
“การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงนี้ทำให้ชาวบ้านกว่า 1,500 คน จาก 15 หมู่บ้าน ต้องอพยพหลบหนี ฉันรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการโจมตีที่ดำเนินต่อเนื่อง เส้นทางสู่สันติภาพนั้นคือการเจรจาทางการเมือง ไม่ใช่ด้วยกองกำลังทหาร” ยางฮี ลี กล่าว
สำหรับรัฐยะไข่ พม่าดูเหมือนจะใช้นโยบายที่ทำให้ต้องอดอยาก เพื่อทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ของชาวโรฮิงญาไม่มีความยั่งยืน
มาร์ซูกิ ดารุสมาน ประธานคณะผู้แทนค้นหาข้อเท็จจริงระหว่างประเทศว่าด้วยพม่าที่ตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ กล่าวว่า คณะทำงานของเขาได้รับรายงานข้อกล่าวหาเป็นจำนวนมากต่อกองกำลังรักษาความมั่นคงในรัฐยะไข่ รัฐกะฉิ่น รัฐชาน และที่ต่างๆ
ถิ่น ลิน ทูตพม่า ไม่ได้ตอบสนองต่อการวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น แต่กล่าวต่อคณะมนตรีว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่จะยืนกรานว่าผู้นำพม่าเมินเฉยต่อข้อกล่าวหาต่างๆ
“ผู้นำ และรัฐบาลของเราจะไม่ยินยอมอดทนต่ออาชญากรรมดังกล่าว เราพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเมื่อมีหลักฐาน” ถิ่น ลิน กล่าว.