วิวาห์ป่าเดียวกันล่ม ตำรวจกัมพูชาขวางห้ามขาดชายต่างชาติแต่งชายเขมร

MGRออนไลน์ -- เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.กระแจ๊ (Kratie) ได้เข้าขัดขวาง งานเลี้ยงฉลองวิวาห์ระหว่างชายชาวต่างชาติอายุ 36 ปี คนหนึ่ง กับชายหนุ่มวัย 23 ปี ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ และ ได้ชี้แจงให้ทุกฝ่ายได้ทราบว่า การแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันในประเทศนี้ ยังไม่มีกฎหมายรองรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างชายกับชายนั้น ไม่มีกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ทางการจึงได้ขอให้การแต่งงาน ต้องยุติลง

หัวหน้าตำรวจจังหวัด ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแห่งนี้่กล่าวว่า นับเป็นกรณีแรก ที่มีชายชาวต่างชาติ พยายามแต่งงาน กับชายชาวกัมพูชา และ เรื่องนี้เป็นข่าวในเว็บไซต์หลายแห่ง ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ตามรายงานของสวิฟต์นิวส์เว็บข่าวภาษาเขมร เหตุเกิดตอนค่ำวันเสาร์ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ใน อ.วาริน (Varin) โดยฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นชายชาวฝรั่งเศส ชื่อ นายแฟร็งค์ โนแว็ค (Frank Novak) และ ฝ่าย "เจ้าสาว" ได้แก่ นายเลิก จันรัตนัน (Loeuk Chanrattanan)

รองผู้กำกับการตำรวจ อ.กระแจ๊ะ นุต สุเค็ง (Nuth Sokheng) กล่าวว่า สาเหตุที่ทางการเข้าขัดขวางงานวิวาห์ ก็เนื่องจากว่า "มันเป็นการแต่งงานที่ผิดกฎหมาย" -- ไม่มีกฎหมายใดที่บัญญัติเกี่ยวกับ การสมรสกันระหว่างผู้ชายสองคนในกัมพูชา นอกจากนั้น "พวกเขาก็ไม่ได้แจ้งให้เราทราบ หรือ ยื่นขออนุญาตล่วงหน้า แต่ทำพิธีกันเอง และ เลี้ยงฉลองวิวาห์กันเอง -- อย่างผิดกฎหมาย"

เหตุการณ์นี้ได้ทำกัมพูชาเป็นเพียงประเทศเดียว ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง ที่ห้ามปรามการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายกับชาย ในขณะที่เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในเวียดนามมาหลายครั้ง และ มีอยู่อย่างน้อย 1 ครั้งลาว ระหว่างหนุ่มชาวลาวกับ "เจ้าบ่าว" ต่างชาติ
.

"ในกัมพูชาเราไม่มีกฎหมาย ที่อนุญาตให้ผู้ชายสองคน แต่งงานกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งงานกับชายชาวต่างชาติแบบนี้ -- นับเป็นครั้งแรกที่มีชายชาวต่างชาติคนหนึ่ง พยายามแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันในประเทศกัมพูชา"

พล.จ.พรุม พะเนต (Prumh Phaneth) รองหน้าตำรวจ จ.กระแจ๊ะ ให้สัมภาษณ์ทำนองเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับอำเภอทำถูกต้องแล้ว เนื่องจากตำรวจมีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย ที่จะต้องเข้าห้ามปรามการแต่งงาน เนื่องจากไม่กฎหมายที่อนุญาตให้ ชายสองคนกินอยู่กัน แบบสามีภรรยา

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน มีทัศนะที่ค่อนข้างจะต่อต้านการรักร่วมเพศ หรือ ความรักระหว่างคนเพศเดียวกัน โดยเห็นว่าเป็นสิ่งที่ผิดต่อทำนองคองธรรม และ ผิดประเพณีของชนชาติที่สืบกันมาช้านาน

เมื่อกว่า 10 ปีก่อน ครอบครัวฮุนซน เคยมีธิดาบุญธรรมอยู่คนหนึ่ง ตั้งชื่อว่า ฮุน มาลี (Hun Maly) -- นรม.กัมพูชาเคยปราศรัยต่อสาธารณชนครั้งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สู้อุตส่าห์ส่งเสีย ให้ไปศึกษาเล่าเรียนถึงสหรัฐ แต่กลับกลายเป็นว่า ไปรักไปชอบกับหญิงด้วยกัน ทำให้ตัดสินใจต้อง ไปจดทะเบียนใหม่ เลิกล้มการรับเป็นลูกบุญธรรม.

รักจริงแต่งจริง -- พร้อมหน้าพร้อมตากัน ทั้งฝ่ายเจ้าบ่าว และ "เจ้าสาว" แต่รักร่วมเพศมีอุปสรรค นับเป็นกรณีแรกในกัมพูชา ซึ่งได้กลายเป็นประเทศเดียในย่านนี้ ที่มีความชัดเจน ห้ามเด็ดขาดการแต่งงานระหว่างชายกับชายด้วยกัน.