xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซีย-เวียดนามกางแผนซ้อมรบ 3 ปี ทดสอบอาวุธเทคโนโลยีสูง ของจริงยิงด้วยกระสุนจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>รมว.กลาโหมรัสเซีย กับคู่ตำแหน่งแห่งเวียดนาม ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ที่กระทรวงกลาโหมในกรุงฮานอย 23 ม.ค.2561 เป็นการเยือนที่ออกดอกผลงดงาม ระหว่างสองชาติพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ ที่ผ่านการสู้รบมาด้วยกัน ในสมัยสงครามเวียดนาม กำลังจะเป็นครั้งแรกที่สองฝ่าย จะฝึกซ้อมรบด้วยอาวุธเทคโนโลยีสูง และใช้อาวุธจริง-กระสุนจริง. -- Reuters/Kham. </a></a>
[ชื่อ "ชเรเก โชยกู" (Sergei Shoygu) เป็นการออกเสียง ตามสำเนียงภาษารัสเซีย เช่นเดียวกับชื่อที่คุ้นเคยกันดี อีกหลายชื่อ ในช่วงหลายสิบปีมานี้ รวมทั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "ชเรโนบีล" (Chernobyl) หรือ นายคอนสแตนติน ชเรเนนโก (Constantin Chernenko) อดีตผู้นำโซเวียตคนหนึ่งด้วย]

MGRออนไลน์ -- รัสซียกับเวียดนามกำลังร่วมกันจัดทำแผน เกี่ยวกับการร่วมฝึกซ้อมต่างๆ ระหว่างกองทัพสองประเทศ ตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า โดยฝ่ายรัสเซียตกลงที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ในการทดสอบเทคโนโลยีด้านอาวุธต่างๆ กับฝ่ายเวียดนาม ในสถานการณ์สู้รบจริง -- กระทรวงกลาโหมในกรุงมอสโก ออกประกาศเรื่องนี้ข้ามวันที่ผ่านมา ขณะ พล.อ.ชเรเก โชยกู รัฐมนตรีกลาโหม กำลังอยู่ในกรุงฮานอย และ ยกย่องเวียดนามเป็นพันธมิตรสำคัญยิ่งยวดของรัสเซีย ในการรธำรงความมั่นคงในย่านแปซิฟิก

เวียดนามเป็นประเทศสุดท้าย ในการตระเวนเยือน 3 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ ของผู้นำด้านกลาโหมจากรัสเซีย คือ พม่า ลาวกับเวียดนาม ซึ่งเริ่มในวันเสาร์ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา

ถ้าหากการฝึกซ้อมกับการซ้อมรบที่ใช้อาวุธจริง กระสุนจริง เป็นความตกลงกันระหว่างสองฝ่ายจริง ตามที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงาน ก็จะเป็นเรื่่องใหม่ เพราะจะเป็นครั้งแรกสำหรับกองทัพประชาชนเวียดนาม ที่จะเข้าฝึกซ้อมด้วยอาวุธและกระสุนจริง (Live-Fire Exercise) กับกองทัพของอีกประเทศหนึ่ง และ เวียดนามได้ปฏิเสธการเชิญชวนของสหรัฐ ในเรื่องนี้มาโดยตลอด

พล.อ.โชยกู ได้พบหารือข้อราชการกับ พล.อ.โง ซวน หลิก (Ngô Xuân Lịch) คู่ตำแหน่งฝ่ายเวียดนาม ขณะที่ผู้นำระดับสูงสุดอีก 2 คน ซึ่งได้แก่ พล.อ.เจิ่น ได กวาง (Trần Đại Quang) ประธานาธิบดี กับ นายเหวียน ฟุ จ่อม (Nguyễn Phú Trọng) เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ต่างเปิดทำเนียบและสำนักงานใหญ่ ต้อนรับ รมว.กลาโหมรัสเซีย ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุด

"รัสเซียกับเวียดนามกำลังพัฒนา แผนความร่วมมือทางการทหาร รวมทั้งการฝึกซ้อมร่วมต่างๆ เป็นระยะเวลา 3 ปี" กระทรงกลาโหมในกรุงมอสโก รายงานอ้าง พล.อ.โชยกู ภายหลังการพบหารือกับ รมว.กลาโหมเวียดนามวันเดียวกัน ก่อนจะเข้าเยี่ยมคำนับ และหารือในหัวข้อเกี่ยวกับความสมพันธ์ทวิภาคี และ การเมืองระหว่างประเทศ กับประธานาธิบดี และ เลขาธิการใหญ่พรรคคคอมมิวนิสต์ตามลำดับ
.


รมว.กลาโหมรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียกับเวียดนาม มีประวัติศาสตร์ในการร่วมกันสู้รบมายาวนาน และ รัสซียกับเวียดนามได้เป็นสองชาติ ที่ผ่านการพิสูจน์ความเชื่อมั่นกับความเคารพซึ่งกันและกัน และ "การเป็นหุ้นส่วนกัน ระหว่างรัสเซียกับเวียดนาม ก็มีเป้าหมายเพื่อการอำนวยขีดความสารถ ทางด้านการป้องกันสำหรับสองชาติ"

เวียดนามกับรัสเซียได้ผ่านการพิสูจน์โดยกาลเวลา ในการเป็นหุ้นส่วนที่ไว้วางใจกัน ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานมิตรภาพ กับการร่วมประโยชน์กัน และ "รัสเซียพร้อมแบ่งปันกับเวียดนาม ประสบการณในการทดสอบ ระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ ในสถานการณ์สู้รบ" -- กระทรวงกลาโหมในกรุงมอสโกอ้าง พล.อ.โชยกู กล่าวเรี่องนี้ ต่อ พล.อ.โง ซวน หลิก

พล.อ.โชยกู ย้ำว่า เป็นนโยบายต้นๆ ทางด้านการต่างประเทศของรัสเซีย ที่จะธำรงความสัมพันธ์อันใกล้ชิด และ ความสัมพันธํ์บนความไว้เนื้อเชื่อใจกันกับเวียดนาม

"รัสเซียมองว่าเวียดนามเป็นชาติพันธมิตรยุทธศาสตร์ชาติหนึ่ง เป็นเพื่อนมิตรที่เก่าแก่ยาวนานและเชื่อถือได้" และ "เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญที่สุดอีกประเทศหนึ่ง ในการประกันความมั่นคงในย่านเอเชียแปซิฟิก" การแลกเปลี่ยนการพบประสนทนา ในระดับสูงระหว่างสองประเทศ กำลังดำเนินไป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทวงกลาโหมสองประเทศ ก็เพิ่งประชุมพบหารือทางด้านยุทธศาสตร์ระหว่างกัน ในกรุงมอสโก เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยความสำเร็จ และ การพบปะกันครั้งต่อๆไป ก็จะกระชับความสัมพันธ์ฉันท์มิตร ระหว่างกระทรวงกลาโหมของทั้งสองชาติ ให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

พล.อ.โชยกู นำคณะเดินทางถึงกรุงฮานอยในวันจันทร์ 22 ม.ค. และสิ้นสุดการเยือนเวียดนามในวันถัดมา ซึ่งกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยแพร่ผลการเยือนเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยการทหารของรัสเซีย จะฝึกฝนพนักงานสอบสวนสืบสวน และ อัยการทหาร ให้แก่กองทัพประชาชนเวียดนาม
.
<br><FONT color=#00003>ปธน.เวียดนาม พล.อ.เจิ่น ได กวาง เปิดทำเนียบต้อนรับ พล.อ.ชเรเก โชยกู 23 ม.ค.2561 ก่อน รมว.กลาโหมรัสเซีย จะเข้าเยี่ยมคำนับ นายเหวียน ฟุ จ่อม เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นการให้เกียรติสูงสุด. -- Reuters/Kham. </a>
ในช่วงกว่า 10 ปีสงครามเวียดนาม ระหว่างทศวรรษที่ 1960-1970 นั้น สหภาพโซเวียตเมื่อก่อน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง สนับสนุนฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือ กับเวียดกงในภาคใต้ ทั้งด้านการเงินและยุทโธปกรณ์ ในการต่อสู้กับกองทัพสหรัฐ ที่ส่งกำลังทหารนับแสนๆ คน เข้าไปช่วยรัฐบาลเวียดนามใต้ หรือ สาธารณรัฐเวียดนามเมื่อก่อน

เมื่อปี 2522 หลังสงครามสิ้นสุดลง 4 ปี โซเวียตได้ขอเช่าฐานทัพเรือ กับฐานทัพอากาศอ่าวกามแรง (Cam Ranh) ใน จ.แค้งหว่า (Khánh Hòa) ทางตอนกลางของเวียดนาม เป็นแหล่งจอดเรือรบกับเรือดำน้ำ รวมทั้งเครื่องบินรบ กับเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลหลากหลายรุ่น เผชิญหน้ากับฐานทัพสหรัฐ ที่ยังเหลืออยู่ในซูบิก (Subic) กับโอลองกาโป (Olongapo) ฟิลิปปินส์

สัญญาเช่าฐานทัพกามแรง จะสิ้นสุดลงในปี 2545 แต่หลังสหาพโซเวียตล่มสลาย ในปี 2534 ฝ่ายรัสเซียได้ขอบอกเลิกสัญญาเช่า โดยให้เหตุผลว่าหมดความจำเป็น -- นักการทหารรัสเซียยุคใหม่ ลงความเห็นว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลสมัยยุคหลังโซเวียต

เวียดนามมีอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ใช้มาในยุคสงคราม เหลืออยู่ในสตอกเป็นจำนวนมาก หลายชนิดได้ผ่านการอัปเกรดให้ทันสมัย พร้อมกันนั้นก็ได้ทยอยจัดหาระบบอาวุธสมัยใหม่จากรัสเซีย อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเครื่องบินรบ เรือฟริเกต เรือเร็วติดระบบอาวุธปล่อยนำวิถี กับเรือดำน้ำ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการส่งมอบ เรือฟริเกตชั้นเกพาร์ด 3.9 (Gepard 3.9-Class) อีก 2 ลำ และ เป็นที่ทราบกันดีว่า เวียดนามกำลังมองหาเครื่องบินรบอเนกประสงค์อีกจำนวนมาก เพื่อบรรจุแทน Su-22 ที่ใช้งานมานานกว่า 20 ปีในขณะนี้

ปัจจุบันเวียดนามยังผลิตเอง หรือประกอบ อาวุธหลายชนิดในประเทศ โดยซื้อสิทธิบัตรจากรัสเซีย ซึ่งรวมทั้งอาวุธปล่อยนำวิถียิงเรือ กับอาวุธปล่อยฯ ป้องกันชายฝั่ง กับเรือเร็วติดอาวุธปล่อยฯ รุ่นหนึ่งด้วย.


กำลังโหลดความคิดเห็น