xs
xsm
sm
md
lg

มาแล้ว.. 2 ลำแรก รีบดูก่อนใครๆ T-50 "อินทรีทอง" ของไทย ฮือฮากันยกใหญ่ตอนแวะจอดไต้หวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฝนกำลังตกและลมพัดแรง ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองเกาสงของไต้หวัน เมื่อประมาณ 14 ขั่วโมงที่แล้ว แต่ "อินทรีทอง" ทั้งสองลำ ยังขึ้นบินตามกำหนด -- หลายคนเชื่อว่ากำลังมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย บ้านใหม่อันถาวร -- เป็นสองลำแรก ในลอตแรก 4 ลำ ที่ไทยเซ็นซื้อจาก KAI เดือน ก.ย.2558.


MGRออนไลน์ -- ทั้งชาวไทย ชาวเกาหลี จนถึงชาวไต้หวัน ต่างสนใจต่อการปรากฏตัว ของเครื่องบินไอพ่นขนาดเล็ก 2 ลำ ซึ่งไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเกาสง (Kaohsiung International Airport) บนเกาะไต้วัน ช่วงกลางวันที่ผ่านมา ทั้งสองลำติดธงชาติไทย ที่ปลายทั้งสองข้าง ของแพนหางดิ่ง บ่งบอกว่าเป็นของกองทัพอากาศไทย

ทั้งภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของท่าอากาศยานเกาสง แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองลำ ซึ่งเป็นหมายเลข 40101 กับ 40102 -- คือ T-50TH ที่ผลิตโดย กลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยานและการอวกาศแห่งเกาหลี หรือ KAI (Korea Aerospace Industries) -- กองทัพอากาศไทย จัดหามา 3 ครั้ง รวมทั้งหมด 16 ลำในปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าในเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ ของท่าอากาศยานเกาสง จะระบุว่าทั้งสองลำเป็น FA-50 ก็ตาม แต่แท้จริงเป็นรหัส T-50TH ที่ฝ่ายไทยจัดหา และ สั่งทำคอนฟิกูเรชั่น เป็นเครื่องบินฝึกชั้นต้น แต่มีขีดความสามารถ ดัดแปลงใช้เป็นเครื่องบินโจมตีเบาได้ เนื่องจากมีจุดติดตั้งระบบอาวุธ (Pylon) หลายจุด รวมทั้งติดปืนใหญ่อากาศเป็นอาวุธมาตรฐาน

ทั้งสองลำมีนักบินประจำทั้งสองที่นั่ง -- หน้าและหลัง ซึ่งชาวออนไลน์หลายคน ตั้งเป็นข้อสังเกตว่า ข้างหน้านั้น น่าจะเป็นนักบินกองทัพอากาศไทย ที่ไปซุ่มฝึกบิน T-50TH ในเกาหลีตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่วนที่นั่งข้างหลัง น่าจะเป็นนักบินเกาหลี ที่ติดตามกัน "มาส่ง" ด้วย

ยังไม่มีการประกาศใดๆ จากทางการเกาหลี หรือ KAI เกี่ยวกับการปรากฏตัวที่ไต้หวัน ของเครื่องบินติดธงชาติไทยทั้งสองลำ แต่ชาวออนไลน์ เชื่อกันว่า เป็นการลงแวะพัก รวมทั้งเติมเชื้อเพลิงระหว่างทาง ขณะมุ่งหน้าหน้าสู่ประเทศไทย บ้านใหม่ที่ถาวร

มีชาวไทยจำนวนมาก เข้าไปชมภาพถ่ายกับวิดีโอคลิป ขณะ "อินทรีทอง" ทั้งสองลำบินขึ้นจากท่าอากาศนานาชาติเกาสง เมื่อ 12 ชั่วโมงที่แล้ว โดยไม่ทราบว่า มีจุดแวะพักรายทางที่ใดอีกหรือไม่ แต่มีชาวไทยหลายคนเข้าไปเขียน แสดงความคิดเห็น ด้วยข้อความ "ยินดีต้อนรับ"

สำนักข่าวทางการเกาหลี รายงานในเดือน ก.ย.2558 ระบุว่า KAI ได้เซ็นสัญญากับฝ่ายไทย เพื่อจำหน่าย T-50 ให้ไทยจำนวน 4 ลำ รวมมูลค่าราว 110 ล้านดอลลาร์ (3,700 ล้านบาท) กำหนดส่งมอบภายใน 30 เดือน -- นั่นคือครบกำหนดเดือน มี.ค.ปีนี้ -- ซึ่งทำให้ชาวออนไลน์เชื่อว่า ทั้งสองลำที่สนามบินในไต้หวัน วันพุธ 10 ม.ค.นี้ เป็นสองลำแรก ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย เพื่อการส่งมอบ

กองทัพอากาศไทย จะบรรจุ T-50TH แทนเครื่องบินฝึกแบบ Aero L-39 “Albatros” จากประเทศเชโกสโลวะเกียเมื่อก่อน ที่มีอยู่กว่า 30 ลำ ใช้มานาน 23 ปี บัดนี้ครบอายุ อยู่ในสภาพทรุดโทรมตามอายุขัย ไม่ปลอดภัย ไม่ประหยัด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวบินสูงขึ้น -- นอกจากนั้น ที่ผ่านมายังเคยเกิดขัดข้อง และตกไปจำนวนหนึ่งด้วย

เดือน ก.ค.ปีที่แล้ว คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ สำหรับการจัดหาอีก 8 ลำ ในลอตที่สอง รวมมูลค่า 8,800 ล้านบาท กับอีก 4 ลำล่าสุด เป็นลอตที่สาม เพื่อส่งมอบในปี 2563 ราคา 3,700 ล้าน รวมเป็นการจัดหาทั้งหมด 3 ลอต จำนวน 16 ลำ

ในเดือน ต.ค.2560 สำนักข่าวกลาโหมเจนส์ 360 องศา รายงานว่า ฝ่ายเกาหลีได้เจรจากับฝ่ายไทย เสนอขาย T-50TH ให้อีก 4 ลำ โดยผนวกเข้าในลอตที่ 3 ซึ่งจะทำให้กองทัพอากาศไทย มี บฝ. "T-50TH" รวมเป็นทั้งหมด 20 ลำ.
หมายเลข 40101 กับ 40102 ลงจอดที่สนามบินเกาสง แต่เช้าตรู่ และ ขึ้นบินอีกครั้งเมื่อตอนกลางวัน -- ราว 14-15 ชั่วโมงที่แล้ว -- โดยไม่ทราบปลายทาง แต่เชื่อกันว่า "อินทรีทอง" ทั้งสองลำ กำลังมุ่งหน้ามายังประเทศไทย เป็น 2 ลำแรก ที่ KAI เตรียมส่งมอบให้แก่กองทัพอากาศไทย ตามข้อตกลงการซื้อขายลอตแรก 4 ลำ ที่เกาหลีจะส่งมอบให้ภายใน 30 เดือน ซึ่งจะครบกำหนด มี.ค.ปีนี้ -- ภาพทั้งหมดถ่ายจากมุมต่างๆกัน รวบรวมจากเฟซบุ๊กสนามบินเกาสง.



<br><FONT color=#00003>โปรดสังเกตช่องว่าง ตรงโคนปีกติดห้องนักบินใน 3 ภาพข้างบน พร้อมครีบระบายความร้อน หน้า-หลัง -- มิใช่อื่นใดหากต้องเป็นปืนใหญ่อากาศ 20 มม. 3 ลำกล้อง ที่ผลิตโดยเจเนอรัลไดนามิกส์ สหรัฐ เป็นอาวุธมาตรฐานของ T-50TH ที่สามารถดัดแปลง ให้เป็นเครื่องบินโจมตีเบาได้ เพราะติดสรรพาวุธได้มากมาย. </b>








กำลังโหลดความคิดเห็น