เอเอฟพี/รอยเตอร์ - นักข่าวรอยเตอร์ 2 คน ถูกตำรวจตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการที่ศาลพม่าวันนี้ (10) จากการละเมิดกฎหมายความลับราชการ ที่มีโทษจำคุกสูงสุด 14 ปี ท่ามกลางเสียงเรียกร้องการปล่อยตัว
วา โลน และกอ โซ อู นักข่าวชาวพม่า ถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนก่อนภายใต้กฎหมายความลับราชการ หลังพวกเขาถูกกล่าวหาว่า ได้รับเอกสารสำคัญจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายระหว่างรับประทานอาหารค่ำ
ทั้งคู่ทำหน้าที่รายงานข่าวเกี่ยวกับการปราบปรามทางทหารในรัฐยะไข่ ที่ทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 655,000 คน หลบหนีไปฝั่งบังกลาเทศตั้งแต่เดือน ส.ค. ความรุนแรงที่สหประชาชาติประณามว่า เป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยื่นฟ้องตามกฎหมายความลับราชการ มาตรการ 3.1 (c) โดยมาตราดังกล่าวมีบทกำหนดลงโทษต่อผู้ที่ “ได้รับ รวบรวม บันทึก หรือเผยแพร่เอกสารหรือข้อมูลของทางการที่อาจเป็นประโยชน์ต่อศัตรู”
“พวกเขาจับเรา และดำเนินคดีกับเราเพราะเราพยายามที่จะเปิดเผยความจริง” วา โลน กล่าวต่อนักข่าว ขณะตัวเขา และกอ โซ อู ถูกนำตัวออกจากศาล และกลับไปยังเรือนจำอินเส่ง
นักข่าวทั้งสองรายจะกลับขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 23 ม.ค. สำหรับข้อโต้แย้งทางกฎหมายเพื่อที่ศาลจะตัดสินว่าจะยอมรับคดีหรือไม่ตามระบบกฎหมายของพม่า
“เรายื่นขอประกันตัวแต่อัยการปฏิเสธ เรากำลังจะให้รายละเอียดข้อโต้แย้งทางกฎหมายในการพิจารณาครั้งหน้า” ทนายความของนักข่าว กล่าว
ผู้สังเกตการณ์จากสหประชาชาติ และจากสถานทูตอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งเนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และอังกฤษ และหนึ่งในผู้สังเกตการณ์จากสหภาพยุโรป ระบุว่า หวังให้นักข่าวเหล่านี้ได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม
นักข่าวประมาณ 30 คน รวมตัวอยู่ด้านนอกศาล ที่ส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดดำเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการประท้วงต่อต้านการจับกุมสองนักข่าว พร้อมป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “สื่อสารมวลชนไม่ใช่อาชญากรรม” หรือ “ปล่อยตัวนักข่าวที่ถูกจับทันที” ที่อยู่บนเสื้อยืดของพวกเขา.