จนท.เวียดนามยังมืดแปดด้านไม่รู้สาเหตุโดนรวบในสิงคโปร์ หวั่นโดนโทษประหารหากถูกส่งกลับ

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สืบราชการลับเวียดนามที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในสิงคโปร์ มีความวิตกอย่างมากต่อสวัสดิภาพของตนเองหากถูกส่งตัวกลับประเทศ ตามการเปิดเผยของทนายความ และว่า การส่งตัวกลับประเทศอาจทำให้เจ้าหน้าที่รายนี้ถูกประหารชีวิต

นายฟาน วัน แอ็งห์ หวู สับสน และไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่ตนเองถูกควบคุมตัว เรมี ชู ทนายความของ นายหวู กล่าวหลังได้พบหารือกับลูกความ และครอบครัวของลูกความได้ยืนยันว่า นอกจากการเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว นายหวู ยังมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสในหน่วยสืบราชการลับของเวียดนามด้วย

นายหวู ถูกจับกุมตัวเมื่อสัปดาห์ก่อนขณะเดินทางข้ามแดนจากสิงคโปร์ไปมาเลเซีย ตำรวจเวียดนามได้ระบุว่า นายหวู เป็นที่ต้องการตัวจากการเปิดเผยความลับของรัฐ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม

ทนายความอีกรายหนึ่งในเยอรมนีกำลังผลักดันให้ชายวัย 42 ปีผู้นี้ เดินทางมายังเยอรมนี และเสริมว่า เขาสามารถช่วยสืบสวนเหตุลักพาตัวผู้บริหารกิจการน้ำมันของเวียดนามในกรุงเบอร์ลินที่กลายเป็นประเด็นทางการทูตได้

คดีดังกล่าวเป็นหนึ่งในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันกับบุคคลระดับสูงในเวียดนาม ที่ทำให้เห็นอดีตเจ้าหน้าที่ นายทหาร และผู้บริหารจำนวนมากจากกิจการของรัฐ ถูกจับกุมตัว และถูกจำคุกในช่วงปีที่ผ่านมา

ทนายความชาวเยอรมัน ที่เป็นตัวแทนของนายหวู และนายจีง ซวน แท็งห์ ผู้บริหารกิจการน้ำมันที่สงสัยว่า ถูกลักพาตัว กล่าวว่า นายหวู มีตำแหน่งระดับสูงในหน่วยตำรวจลับเวียดนาม และเตือนว่า นายหวู อาจเผชิญต่อโทษประหารชีวิตหากถูกส่งตัวกลับประเทศ

หลังการพบหารือกับนายหวู ในวันพุธ (3) ทนายเรมี ชู กล่าวว่า มีโอกาสสูงมากที่นายหวู จะถูกส่งตัวกลับประเทศ

“เขาวิตกอย่างมากต่อสวัสดิภาพของตัวเองหากถูกส่งกลับ” ทนายชู กล่าว และว่า ลูกความของเขาไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่ถูกจับกุมตัว

ทนายความชู กล่าวว่า นายหวู ใช้เอกสารการเดินทาง และหนังสือเดินทางชุดเดียวกันกับการเดินทางเข้าสิงคโปร์ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้ให้เหตุผลถึงสาเหตุที่เขาถูกควบคุมตัว

ฝ่ายเจ้าหน้าที่สิงคโปร์ยืนยันเพียงแค่ว่า นายหวู ถูกจับกุมตัวเมื่อวัน 28 ธ.ค. จากการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง

ผู้สังเกตการณ์ ระบุว่า การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของเวียดนาม ดำเนินการโดยกลุ่มผู้นำสายอนุรักษนิยมตั้งแต่ปี 2559 ที่หลายคนเชื่อว่า ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการกำจัดศัตรูทางการเมืองที่มีสายสัมพันธ์กับอดีตผู้นำ.