รอยเตอร์ - รัฐบาลเวียดนามรับคำที่จะทบทวนอัตราค่าธรรมเนียมการใช้ทางด่วนสายใหม่ในภาคใต้ของประเทศหลังประชาชนชุมนุมประท้วงหลายครั้ง
การเก็บค่าธรรมเนียมทางด่วนสายกายเลย (Cai Lay) ทางภาคใต้ ถูกระงับลงชั่วคราวเมื่อวันจันทร์ (4) หลังผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะประท้วงด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมด้วยธนบัตรมูลค่าต่ำเป็นจำนวนมากจนทำให้การจราจรติดขัดเป็นแถวยาว
แม้ความอดทนอดกลั้นของทางการต่อผู้เห็นต่างจะมีไม่มากนัก แต่รัฐบาลก็รู้สึกอ่อนไหวต่อสัญญาณใดๆ ก็ตามที่แสดงถึงความไม่พอใจของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์
ในความเห็นที่เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ของรัฐบาลในวันนี้ (8) รัฐมนตรีกระทรวงการคมนาคมระบุว่ากำลังตรวจสอบข้อเสนอทางเลือกสำหรับการดำเนินการทางด่วน
“เราจะทำการวิจัยและรายงานผลต่อรัฐบาล แต่ทางเลือกใดก็ตามที่เราเลือกสำหรับทางด่วนกายเลยจะมีผลต่อโครงการสัมปทานในรูปแบบ BOT (สร้าง-บริหาร-โอนถ่าย) โครงการอื่นๆ” รายงานอ้างคำกล่าวรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ปรากฎบนสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่าเจ้าหน้าที่ได้ประโยชน์จากบริษัทที่ดำเนินการเก็บค่าผ่านทาง
ตามถนนสายต่างๆ ของเวียดนามที่สร้างขึ้นโดยนักลงทุนภายใต้โครงการ BOT มีการตั้งด่านเก็บค่าผ่านทาง 88 แห่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
แต่ด่านแห่งหนึ่งบนทางด่วนสายกายเลย กลับสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนหลังเปิดด่านในวันที่ 1 ส.ค. เพราะสถานที่ตั้งของด่านทำให้แม้แต่คนขับรถที่ไม่ได้ใช้ถนนเส้นดังกล่าวก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ฝ่ายนักลงทุนกล่าวว่าเป็นเรื่องยุติธรรมเพราะต้องซ่อมแซมถนนเก่า แต่คนขับรถชี้ว่าค่าซ่อมแซมปรับปรุงนั้นน้อยมาก
การเก็บค่าธรรมเนียมที่ด่านดังกล่าวถูกระงับไปเมื่อเกิดเหตุประท้วงหลังจากด่านเปิดครั้งแรก แต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ด่านแห่งนี้กลับมาเก็บค่าธรรมเนียมอีกครั้ง
เพื่อเป็นการประท้วงการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว คนขับบางรายจ่ายค่าธรรมเนียมที่อยู่ระหว่าง 25,000-140,000 ด่ง ด้วยธนบัตรมูลค่าต่ำ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานในการนับธนบัตรหลายร้อยใบต่อการชำระในแต่ละครั้ง
การประท้วงคล้ายกันนี้ยังปรากฎตามถนนสายอื่นๆ ของประเทศ ทำให้การจราจรติดขัด
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งแสดงความเห็นว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องจัดการสถานการณ์ที่อ่อนไหวนี้ เพราะอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าเดิม หากเจ้าหน้าที่ปกป้องตัวเองจากการประท้วงที่ถูกต้องตามกฎหมายของประชาชน
การประท้วงด่านเก็บเงินเป็นหนึ่งในการแสดงความไม่พอใจของประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดในเวียดนาม นับตั้งแต่การชุมนุมประท้วงในปี 2559 ต่อต้านเหตุการณ์สารพิษรั่วไหลจากโรงงานเหล็กและการตอบสนองที่เชื่องช้าของรัฐบาลต่อภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่เกิดขึ้นจากโรงงาน.