เอเอฟพี - หนึ่งในพระสงฆ์ชาตินิยมสุดโต่งชื่อดังของพม่าถูกปฏิเสธประกันตัววันนี้ (14) หลังถูกจับกุมในข้อหายั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านชาวโรฮิงญา ที่จัดขึ้นนอกสถานทูตสหรัฐฯ เมื่อปีก่อน
พระปามุกคา เจ้าอาวาสดัง ถูกควบคุมตัวในช่วงสุดสัปดาห์ นับเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นได้ยากต่อพระชั้นผู้ใหญ่หัวรุนแรงที่แพร่ความรู้สึกเกลียดชังต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา
พระปามุกคา มาปรากฏตัวที่ศาลในชุดของฆราวาส โดยถูกตั้งข้อหาจากบทบาทในเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงเมื่อเดือน เม.ย.2559 นอกสถานทูตสหรัฐฯ ที่กล่าวประณามรัฐบาลอเมริกันเกี่ยวกับการใช้คำว่า “โรฮิงญา”
ชาวพุทธจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่รัฐในพม่าปฏิเสธการใช้คำว่าโรฮิงญาในเรียกชนกลุ่มน้อยมุสลิมกลุ่มนี้ และปฏิเสธการมีอยู่ของชาติพันธุ์โรฮิงญา ทั้งยังยืนยันว่า ชาวมุสลิมกลุ่มดังกล่าวเป็นชาวเบงกาลี คือ ผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ
ด้านนอกศาลนครย่างกุ้ง มีผู้สนับสนุนพระปามุกคา รวมตัวกันอยู่หลายสิบคน ซึ่งผู้พิพากษาได้กำหนดวันพิจารณาคดีครั้งถัดไปในวันที่ 21 พ.ย.
“อาตมาเพียงแค่ปกป้องอธิปไตยของชาติ” พระปามุกคา กล่าว
นอกเหนือไปจากพระวิระธู พระหัวรุนแรงที่เป็นที่รู้จักกันดีอีกรูปหนึ่งแล้ว พระปามุกคา ถือเป็นแนวหน้าของขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านโรฮิงญาที่ขยายตัวมากขึ้นในพม่าในช่วงหลายปีมานี้ ที่มักกลายเป็นความรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง
ถ้อยคำสร้างความเกลียดชังต่อชาวโรฮิงญาได้ทวีมากขึ้นในช่วงหลายเดือนมานี้ ท่ามกลางความตึงเครียดของการกล่าวประณามจากทั่วโลกต่อสถานการณ์การปราบปรามของทหารในรัฐยะไข่ ที่ทำให้ชาวมุสลิมมากกว่า 600,000 คน ต้องหลบหนีออกนอกประเทศในช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา
สหประชาชาติ และกลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กล่าวหาว่า ทหารดำเนินการกวาดล้างชาติพันธุ์ ด้วยผู้ลี้ภัยโรฮิงญาระบุว่า มีการสังหาร ข่มขืน วางเพลิง และการกระทำทารุณต่างๆ เกิดขึ้นด้วยฝีมือของทหาร แต่รัฐบาลได้ออกมาปกป้องทหารว่า เป็นการดำเนินการปราบปรามผู้ก่อการร้ายโรฮิงญา ที่บุกโจมตีด่านตำรวจเมื่อปลายเดือน ส.ค.
รัฐบาลพลเรือนของนางอองซานซูจี ยังปฏิเสธที่จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าสอบสวนข้อกล่าวหาการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และในวันจันทร์ (13) ทหารได้โต้แย้งข้อกล่าวหาการละเมิดต่างๆ ด้วยการเผยแพร่รายงานผลการสอบสวนภายใน ที่ปฏิเสธว่าได้กระทำการโจมตี หรือข่มขืนพลเรือน ที่เป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาต่างๆ
การเผยแพร่ผลการสอบสวนดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนพม่าในวันพุธ (15).