ไต้ฝุ่น "ช้างสาร" ฆ่าวัว 11 ตัวในลาว ลมพัดแรงต้นไม้ใหญ่โค่นทับตายระเนระนาดน่าอนาถใจ

MGRออนไลน์ -- มีวัวเสียชีวิตทั้งหมด 11 ตัวในเหตุการณ์ที่ต้นไทรขนาดใหญ่ จำนวน 2 ต้นโค่นลง เนื่องจากเกิดลมพัดรุนแรง และ ภูมิอากาศแปรปรวนอย่างหนักสัปดาห์ที่ผ่านมา ในวันที่ไต้ฝุ่นลูกใหญ่พัดขึ้นฝั่งเวียดนาม ทะลุเข้าสู่ดินแดนกัมพูชา และ ส่งผลกระทบต่อหลายแขวงภาคใต้ ขึ้นไปจนถึงภาคกลางตอนบนของลาว

เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตเมือง (อำเภอ) เวียงทอง แขวงบอลิคำไซ ในตอนสายวันที่ 4 พ.ย.2560 -- วันที่ไต้ฝุ่นดอมเรย (Damrey) พายุชื่อเขมร -- ขึ้นฝั่งในจังหวัดภาคกลางตอนล่างของเวียดนาม และ พัดเลยเข้าสู่อนุภูมิภาค ก่อนอ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อนรุนแรงที่สุดอีกลูกหนึ่ง ซึ่งได้ส่งอิทธิพลต่อหลายประเทศในย่านนี้ในวันต่อๆ มา -- กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ของลาว ได้ออกคำเตือนให้แขวงต่างๆ ระวังอันตรายจากพายุดอมเรย ในช่วงวันที่ 2-5 พ.ย.ที่ผ่านมา

เหตุเกิดขณะที่วัวทั้ง 11 ตัว หากินอยู่ในอาณาบริเวณชายป่าละเมาะ และ ถูกต้นไม้ใหญ่ที่โค่นลงทั้งสองต้น ทับจนตาย -- ภาพวัวตายทั้ง 11 ตัวที่เจ้าของ นำไปนอนเรียงกัน แพร่สะพัดในโลกออนไลน์ของชาวลาวในวันพุธ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา -- ขณะที่ครอบครัวผู้ประสบเคราะห์ แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งใหญ่นี้

ตามรายงานของสื่อออนไลน์ ที่อ้างผู้อยู่ในเหตุการณ์ วัวทั้ง 11 ตัวเป็นของครอบครัวเดียวกัน ซึ่งผู้นำครอบครัวเคราะห์ร้ายกล่าวว่า อาณาบริเวณที่เกิดเหตุ อยู่ห่างไกลจากชุมชน มีบ้านเรือนอยู่เพียง 4-5 หลังคาเท่านั้น เนื่องจากราษฎรกลุ่มนี้ ได้โยกย้ายออกไปจากหมู่บ้านเดิม ออกไปปลูกยังที่แห่งใหม่ เพื่อให้อยู่ใกล้กับพื้นที่ทำการเกษตร -- การสูญเสียวัวพร้อมกันทันที 11 ตัว นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่แบบหมดเนื้อหมดตัว

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่โลกภายนอกได้เห็น การตายหมู่ของสัตว์เลี้ยง ที่มีสาเหตุจากลมฟ้าอากาศ หลังจากในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวทางการได้รายงานเหตุการณ์ พร้อมเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ ฟ้าผ่าในหนองน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง ในแขวงคำม่วน ทำให้มีวัวตายทั้งหมด 28 ตัว สร้างความเสียหายให้แก่ราษฎร จำนวน 3 ครอบครัว เป็นเงินหลายหมื่นบาท

ตามรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว -- ครั้งนั้นนับเป็นครั้งที่สามในรอบหลายปีมานี้ ที่เกิดฟ้าผ่าในบริเวณหมู่บ้านแห่งเดียวกัน โดยครั้งแรกฟ้าผ่าลงต้นไม้ใหญ่ ทำให้วัวตายจำนวน 11 ตัว และ ครั้งที่ 2 ก็เกิดเหตุลักษณะเดียวกัน มีวัวตายอีก 6 ตัวพร้อมกัน
 .




.        
ก่อนหน้านั้น ในเดือน ส.ค.2559 ได้เกิดเหตุน่าเศร้าสลดใจอีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อสายฟ้าฟาดลงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ทำให้วัวของราษฎร ที่หากินในบริเวณดังกล่าว ตายทันที 7 ตัว เหตุเกิดภายในบริเวณโรงเรียน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่เมืองไซเสดถา แขวงอัตตะปือ ทางตอนใต้สุดของประเทศ

เหตุล่าสุดในแขวงบอลิคำไซสัปดาห์ที่แล้ว จึงนับเป็นเหตุรุนแรงครั้งใหญ่ใหญ่อันดับสองในรอบปี ที่เกี่ยวกับความแปรปรวนของสภาพลมฟ้าอากาศ -- อย่างน้อยที่สุดก็เท่าที่มีรายงานผ่านสื่อต่างๆ

ไต้ฝุ่นดอมเรยก่อเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ เป็นหนึ่งในบรรดากว่า 20 ลูก ที่เกิดขึ้นในย่านแปซิฟิกตะวันคกเฉียงเหนือในปีนี้ แต่เป็นเพียงลูกที่ 5 ที่พัดเข้าถึงฝั่งเวียดนาม (ไม่นับรวมกับดีเปรสชั่นอีก 3 หรือ 4 ลูก) แต่เป็นเพียงลูกเดียว ที่เข้าฝั่งในขณะที่ยังเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1 ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ ในหลายเมืองและจังหวัดภาค ในกลางตอนล่าง ขึ้นไปจนถึงภาคกลางตอนบนของประเทศ

แม้ "ช้างสาร" จะผ่านไปแล้วหลายวัน แต่ทางการเวียดนาม ยังคงเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายราว 60,000 ครอบครัว และ จนถึงวันพุธที่ผ่านมา ได้พบผู้เสียชีวิตและสูญหาย เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นเกือบ 100 คน -- เมื่อพัดข้ามแดนเข้าสู่กัมพูชาในวันที่ 5 พ.ย.พายุโซนร้อนดอมเรย ยังได้สร้างความเสียหายสุดคณานับ ให้แก่ราษฎรหลายจังหวัด ทั้งในภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศ

หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์รายงานว่า เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ มีพายุโซนร้อนลูกหนึ่งพัดเข้าแผ่นดินกัมพูชาโดยตรง.