รอยเตอร์ - สถานทูตสหรัฐฯ ในกัมพูชา ระบุว่า ได้ระงับการออกวีซ่าบางประเภทให้แก่ชาวเขมร เนื่องจากทางการกัมพูชาไม่ยอมรับพลเมืองของตนเองที่สหรัฐฯ ต้องการเนรเทศ
นโยบายใหม่นี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามที่จะปราบปรามผู้อพยพที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย
สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญ ระบุว่า ข้อจำกัดด้านวีซ่านี้ดำเนินการตามกฎระเบียบของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ที่มีต่อประเทศที่ปฏิเสธจะยอมรับ หรือทำให้การส่งตัวพลเมืองกลับประเทศล่าช้าอย่างไม่มีเหตุผล
“รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศต้องสั่งเจ้าหน้าที่สถานกงสุลให้ระงับการออกวีซ่าจนกว่าจะได้รับแจ้งจากรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ว่า ประเทศในคำร้องได้ยอมรับบุคคลเหล่านั้นแล้ว” ประกาศจากสถานทูตระบุ
สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงพนมเปญ ยังได้ยกเลิกการออกวีซ่าให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา และครอบครัวอีกด้วย
การเนรเทศชาวเขมรจากสหรัฐฯ เป็นเพียงหนึ่งในหลายข้อขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และกัมพูชา ที่ได้กล่าวหาว่า หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน นายแกม สุขะ สมคบคิดวางแผนทรยศชาติโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ
เมื่อต้นปี ทางการกัมพูชาหยุดรับพลเมืองที่ถูกเนรเทศจากการถูกตัดสินความผิดในสหรัฐฯ โดยระบุว่า กัมพูชาต้องการที่จะเจรจาข้อตกลงการตั้งถิ่นฐานด้วยเหตุผลด้านสิทธิมนุษยชน และนายกรัฐมนตรีฮุนเซน เคยกล่าวไว้ว่า ต้องการที่จะแก้ไขข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพราะข้อตกลงนี้ทำให้ครอบครัวชาวเขมร-อเมริกันต้องแตกแยกกัน
พาย สีพัน โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวถึงความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการระงับออกวีซ่านี้ว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ไม่ตระหนักถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน
“กัมพูชายังคงให้ความร่วมมือต่อสหรัฐฯ แต่ขณะที่สหรัฐฯ บอกต่อโลกว่า ควรเคารพสิทธิมนุษยชน ในความเป็นจริงแล้วพวกเขากลับไม่เคารพ พวกเขาเพียงแค่ทิ้งระเบิดฆ่าผู้คน” พาย สีพัน กล่าว.