MGRออนไลน์ -- นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน กับ นรม.ลาวทองลุน สีสุลิด ร่วมกันประกาศในกรุงพนมเปญ ลงมือแก้ไขปัญหาเขตแดนตรงจุดพิพาทในทันที พร้อมสั่งรัฐมนตรีต่างประเทศสองฝ่ายประชุมหารือเตรียมการ รวมทั้งร่างหนังสือถึงผู้นำฝรั่งเศส ขอแผนที่-เอกสรทั้งมวล ที่เกี่ยวกับชายแดนสองประเทศ เพื่ออ้างอิง ในการแก้ไขจุดที่เป็นปัญหาถาวรอีก 13-14% ที่เหลืออยู่ตลอดแนวชายแดน ทั้งย้ำในหลักการจุดร่วม "ไม่มีฝ่ายได้ไม่มีฝ่ายเสีย"
ผู้นำกัมพูชาประกาศระหว่างการร่วมแถลงข่าว ในเมืองหลวงกัมพูชาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว รู้จัก ดร.ทองลุนมานาน 30 ปี ความสนิทสนมตั้งแต่ระดับรัฐบาล ถึงระดับครอบครัว ทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เป็นปัจจัยบวกสำคัญที่สุด ทั้งยังประกาศใช้วิธี ให้เจ้าหน้าที่สองฝ่าย ร่วมกันลงพื้นที่ กินนอนด้วยกัน ในจุดที่แก้ไขยากที่สุด ที่ชายแดนอัตตะปือ-สะตึงแตร็ง บริเวณที่กัมพูชาส่งทหารเข้าพื้นที่เดือนที่แล้ว
สองนายกรัฐมนตรีได้ตกลงได้เห็นร่วมกันเป็นเอกฉันท์ใน 4 ข้อ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาพรมแดน และ ให้รัฐมนตรีต่างประเทศสองประเทศ คือ นายปรัก สุคน กับ นายสะเหลิมไซ กมมะสิด จัดประชุมหารือเป็นการด่วนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลงมือแก้ไขจุดที่สามารถแก้ไขได้รวม 4 จุด นรม.ลาวกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า สมควรแก้ปัญหาจุดที่แก้ไขได้ก่อน เนื่องจากไม่วันใดก็วันหนึ่งข้างหน้า บริเวณดังกล่าวก็จะต้องมีหลักปักปันเขตแดนอยู่ดี
ฮุนเซนกล่าวว่าในจุดที่เป็นปัญหามากคือ ชายแดนเวินคาม-โอสะวาย (Veunkham-O'Savay) ระหว่างแขวงอัตตะปือ-จำปาสัก กับ จ.สะตึงแตร็ง ต้องจัดส่งทีมเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ลงสถานที่จริง กินนอน อยู่ที่นั่น จนกว่าจะหาทางแก้ปัญหา-ตกงกันได้
นรม.ลาวเดินทางถึงกรุงพนมเปญตอนเช้าวันศุกร์ 1 ก.ย.นี้ เพื่อพบหารือกับผู้นำกัมพูชาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาพรมแดนโดยเฉพาะ นับเป็นครั้งที่สองระหว่างสองผู้นำ หลังจาก นรม.กัมพูชา บินเข้าเวียงจันทน์วันที่ 12 ส.ค. หรือ เพียงข้ามวันหลังประกาศ ส่งทหารหลายร้อยนาย เข้าพื้นที่พิพาทด้านแขวงอัตตะปือของลาว กล่าวหาว่าฝ่ายลาวลาวส่งทหารข้ามแม่น้ำเซกอง ซึ่งเป็นเส้นแบ่งพรมแดนธรรมชาติ เข้าไปในดินแดนกัมพูชา และ อีกราว 30 คน ยังประจำอยู่ที่นั่น
ลาวกล่าวว่า กัมพูชาสร้างถนนเข้าไปในพื้นที่ ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน และ ได้ทำการทักท้วงไป ทำให้การตัดถนนยุติลงตั้งแต่เดือน เม.ย. แต่ยังคงทหารเอาไว้ในเขตแดนพิพาทราว 30 คนจริง -- หลังจากการพบปะในเวียงจันทน์ สองฝ่ายตกลงสั่งถอนทหาร และ บุคคลากรออกจากพื้นที่ทั้งหมด ภายใน 24 ชั่วโมง
.
"ในวันนี้ 1 ก.ย. ฯพณฯ ทองลุน ได้มาพบข้าพเจ้าในพนมเปญ แสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีสองคน สามารถแก้ปัญหาได้ ถ้าไม่มีความสนิทสนม ระหว่างข้าพเจ้าและครอบครัวทั้งสอง ปัญหานี้ยากที่จะแก้ไขได้ ฯพณฯ ทองลุนกับข้าพเจ้ารู้จักกันมา 30 กว่า ปี มันเป็นพื้นที่ฐานที่จะช่วยแก่ปัญหาได้ทุกอย่าง" นรม.กัมพูชากล่าว เมื่อเริ่มการแถลงข่าวร่วม บ่ายวันเดียวกัน
ตามรายงานในเพซบุ๊ก "สมเด็จฯฮุนเซน" สี่อาณาบริเวณที่สองฝว่าย ตกลงร่วมกันแก้ไขก่อน ได้แก่ บริเวณหลักเขตแดน 003, 017, พื้นที่ห้วยตะเงา-โอสวาย กับ บริเวณ 0.32.1 สองผู้นำได้ตกลงจะร่วมกันลงนาม ในหนังสือฉบับหนึ่ง ส่งถึงนายกรัฐมนตรี ขอแผนที่มาตรส่วน 1:100000 และ 1:50000 รวมทั้งเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับเส้นเขตแดนกัมพูชา-ลาว ที่มีอยู่ เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิงในการปักปันเขต
นายทองลุนกล่าวว่า หลังจากนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศสองฝ่าย จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาชายแดนที่เหลืออยู่อีก 13%-14% ต่อไป
ผู้นำลาวกล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาชายแดนของสองประเทศ จะเป็นไปบนพื้นฐานหลักการแห่งมิตรภาพ เสมอภาพ และ ไม่ให้ใครได้ใครเสีย นอกจากนั้นสองนายกรัฐมนตรียังตกลงรวมกัน ในการรักษาความสงบ ไม่ให้มีความตึงเครียดในเขตชายแดน ที่ยังไม่ได้ตกลงกัน สองฝ่ายเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก จะร่วมกันปรึกษา ให้อาณาบริเวณชายแดนเป็นปรกติ ไม่ให้เกิดความตึงเครียดใดๆ ระหว่างกัน
"หวังว่า วันหนึ่งเราจะมีเส้นชายแดนที่สมบูรณ์แบบ ให้เเป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานของพวกเราต่อไป บนพื้นฐานน้ำใจมิตรภาพ ที่มีมายาวนาน ความร่วมมือที่มีหมากผล ด้วยความจริงใจ ระหว่างประชาชนสองประเทศพวกเรา จะสืบต่อได้รับการผันขยายลงลึก และมีประสิทธิผล ทำให้ประชาชนสองประเทศเรา เป็นบ้านใกล้เรือนเคียงที่ดี บ้านพี่เมืองน้อง บ้านแก้วเมืองดองต่อไป" ผู้นำลาวกล่าว.