MGRออนไลน์ -- พายุโซนร้อนฮาโตะ (Hato) กำลังสร้างความวิตกกังวลให้แก่อนุภูมิภาคนี้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากอุทกภัยจากพายุสองลูกก่อนหน้านี้ เพิ่งซาไปได้สักระยะ ซึ่งส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมกันว่า 40 รายทั่วประเทศ ศูนย์พยากรณ์อากาศในกรุงฮานอย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ เตรียมการรับมือพายุลูกล่าสุดนี้ ที่คาดว่าจะส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนักใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า หลังจากพายุโซนร้อนเซินกา (Sonca) พัดเข้าฝั่ง ในสัปดาห์ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
ต่างไปจากพายุโซนร้อนสองลูก ที่พัดเข้าฝั่งก่อนหน้านี้ ฮาโตะมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่า สำนักพยากรณ์อากาศของประเทศต่างๆในย่านนี้ ต่างแสดงให้เห็นการเดินทางไหลของพายุลูกนี้ จากทางตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เฉียดเข้าใกล้เกาะฮ่องกง ก่อนไปขึ้่นบกในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ทะลุข้ามแผ่นดินไปถึงมณฑลหยุนหนัน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น และ สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำที่นั่น -- ในอาณาบริเวณที่อยู่เหนือเวียดนามและลาว ขึ้นไปไม่ไกล
นี่คือพายุลูกที่ 6 ที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ปีนี้ และ จะเป็นลูกที่ 3 ที่พัดในแนวตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือ แม้จะไม่พุ่งตรงเข้าสู่อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง แต่แนวเคลื่อนตัวก็เฉียดเข้าใกล้อย่างใจหาย สามารถส่งอิทธิพลต่อภูมิอากาศในย่านนี้ได้ โดยคาดว่าจะได้เห็นกันในช่วงปลายสัปดาห์ที่จะถึง -- แผนภูมิพยากรณ์ของหลายสำนัก ที่ออกในตอนเช้าตรู่ วันอังคาร 22 ส.ค.นี้ แสดงให้เห็นปลายทางของพายุฮาโตะ ที่โน้มต่ำลงมาอีก-- ใกล้เข้ามาอีก
ถ้าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็ย่อมหมายถึงว่า ปลายทางของพายุมีโอกาสลดต่ำลงได้อีก ด้วยอ่อนแรงลง ในขณะเคลื่อนตัวผ่านเขตภูเขาในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางของเวียดนาม ได้ออกเตือนตอนเช้าตรู่วันอังคารนี้ พายุฮาโตะกำลังปั่นตัวเองอยู่เหนือหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ราว 220 กิโลเมตร ด้วงยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 60-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าในอีก 24 ชั่งโมงข้างหน้า พายุยังจะเคลื่อนตัวในแนวตะวันตก-ตะวันตกเฉียงเหนือ 20-25 กม./ชม. เร็วและแรงขึ้น กลายเป็นพายุโซนร้อนรุนแรง (Severe Tropical Storm) ลูกใหญ่
เวลาประมาณ 01.00 น. วันพุธ (คืนนี้) พายุจะอยู่ห่างจากเกาะฮ่องกง ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 230 กม. ทวีความเร็วใกล้ศูนย์กลางขึ้่นเป็น 90-110 กม./ชม. ส่งอิทธิพลต่อเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ จนถึงชายฝั่งภาคใต้ของจีน
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ ในกรุงฮานอยกล่าวอีกว่า ในระยะ 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า พายุโซนร้อนลูกใหญ่ ยังคงเคลื่อนตัวในแนวเดิม ด้วยความเร็วราว 25 กม./ชม. และ จะอยู่เหนือมณฑลกว่างซีของจีน ในเวลาประมาณ 01.00 น. วันพฤหัสบดี (คืนวันพุธ) เริ่มอ่อนตัวลง ความเร็วลมใกล้ศูนยน์ลดลง เหลือระหว่าง 60-75 กม./ชม. นั่นคือลดความรุนแรงลง และ มวลไอน้ำเริ่มกระจายตัวออกครอบคลุมทั่วอาณาบริเวณ
ศูนย์พยากรณ์อากาศของเวียดนามกล่าวว่า ทั่วทั้งภาคเหนือ จะเริ่มได้รับอิทธิพลจากพายุลูกนี้ ตั้งแต่คืนวันพุธ 23 ส.ค.เป็นต้นไป ขณะอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่น ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนัก กับฝนตกปานกลางปกคลุมไปทั่ว หนักที่สุดในจังหวัด เขตป่าเขาทางตอนเหนือสุด.
2
3
4
เวียดนามได้รับบทเรียนราคาแพง จากพายุโซนร้อนทาลาส ที่พัดเข้าฝั่งในสัปดาห์กลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เพียงข้ามสัปดาห์ถัดมา พายุเซินกาก็พัดเข้าอีกลูก ทางชายฝั่งภาคกลางตอนบนของประเทศ แต่พายุส่งอิทธิพลอย่างรุนแรงถึงจังหวัดภาคเหนือ ที่อยู่ห่างขึ้นไปหลายร้อยกิโลเมตร อุทกภัยใหญ่ใน จ.เซินลา (Son La) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย รวมกันทั้งหมด 33 ราย หลังจากลูกแรก -- พายุโซนร้อนรุนแรงทาลาส (Talas) คร่าไป 17 ชีวิต
ถึงแม้จะอ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่น และกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ เมื่อพัดเข้าสู่ดินแดนลาว กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ในข้ามวันถัดมา อิทธิพลจากพายุเซินกา กลับรุนแรงอย่างเหลือเชื่อ เมื่อประสานสมทบกับหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่ปกคลุมอยู่เป็นทุนเดิม ทำให้เกิดฝนตก ตั้งแต่ตกหนัก ถึงปานกลาง คลุมอาณาบริเวณกว้าง ทำให้เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด ตั้งแต่ สกลนคร จนถึงนครราชสีมา และ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันถึง 23 ราย
สถานการณ์ในไทยช่วงนั้น ไม่ต่างกับในดินแดนลาว ซึ่งอิทธิพลจากพายุเซินกา แผ่นขึ้นไปถึงแขวงอุดมไซ ทางตอนบนของประเทศ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก วิดีโอที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ของชาวลาว แสดงให้เห็นน้ำในลำน้ำแบง ไหลเชียวกราก ยังมีรายงานสถานการณ์น้่ำท่วม ทั้งในแขวงหลวงพระบาง เวียงจันทน์ และ ไซยะบูลี ที่อยู่ใต้ลงไป
แต่หนักหน่วงที่สุดคือ ทางตอนใต้ของประเทศ สื่อของทางการรายงานเหตุอุทกภัยในหลายอาณาบริเวณ ตั้งแต่แขวงสะหวันนะเขตลงไป จนถึงแขวงจำปาสัก สาละวัน เซกอง และ แขวงอัตตะปือ
ในลาวและเวียดนามก็ไม่ต่างกับในประเทศไทย ที่กำลังเร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำ เหนือเขื่อนหลายต่อหลายแห่ง หลังจากใช้รองรับน้ำฝนในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตภาคกลางของไทย กรมชลประทานกำลังเร่งระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ที่ระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูง และ เพื่อเตรียมรองรับน้ำฝนจากตอนเหนือของประเทศต่อไป.