"ฮุนเซน" บินด่วนเข้าเวียงจันทน์ถก "ทองลุน" จับมือยุติพิพาทชายแดน-ต่างฝ่ายต่างถอนทหาร

MGRออนไลน์ -- ผู้นำลาวและกัมพูชาได้ตกลง ต่างฝ่ายต่างถอนกำลังออกจากเขตแดนพิพาท หลังนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน บินด่วนเข้านครเวียงจันทน์ ตอนเช้าวันเสาร์ 12 ส.ค.นี้ หารือกับ นายทองลุน สีสุดลิด นายกรัฐมนตรีลาว ทำให้ความตึงเครียดที่ชายแดนด้าน จ.สตึงแตร็ง (Strung Treng) กับแขวงอัตตะปือของลาวยุติลง ซึ่งเพียงข้ามวันก่อนหน้านี้ ฮุนเซนได้กล่าวหาว่า ทหารลาวนับร้อยข้ามแม่น้ำเซกอง อันเป็นเส้นแบ่งเขตธรรมชาติ เข้าไปยังดินแดนของตน

ผู้นำกัมพูชากล่าวว่า ยังมีทหารลาวอีกราว 30 คน อยู่ในดินแดนกัมพูชา ซึ่งจะต้องถอนออกไปภายใน 6 วัน ทั้งยังเปิดเผยด้วยว่า ได้สั่งการให้ พล.อ.เตียบัญ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.พล สะเรือน ผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา เคลื่อนทหารจาก 2 หน่วยใน จ.พระวิหาร กับสะตึงแตร็ง ไปยังเขตแดนพิพาท

กัมพชาได้พยายามก่อสร้างถนนสายหนึ่ง เพื่อเชื่อมกับทางหลวงสายหลัก แนวเหนือ-ใต้ จาก จ.รัตนคีรี ซึ่งจะเป็นถนนเลียบชายแดน ในเขชต "สามเหลี่ยมมรกต" ระหว่างกัมพูชา เวียดนามและลาว ท่ามกลางการคัดค้านจากฝ่ายลาว ที่ระบุว่ากัมพูชากำลังตัดถนน เข้าไปยังบริเวณที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน ระหว่างสองประเทศ และ ส่งทหารนับร้อยคนเข้าไปยังบริเวณดังกล่าว ทำให้กัมพูชาหยุดการสร้างถนน ตั้งแต่เดือน ก.พ.ปีนี้เป็นต้นมา

แต่ผลการหารือระหว่างสองผู้นำในตอนเช้าวันเสาร์นี้ สองฝ่ายเห็นเป็นเอกภาพร่วมกัน จะไม่ให้มีการพิพาทและใช้ความรุนแรงใดๆ ในกรณีนี้ ซึ่งคำมั่นสัญญานี้ ถ่ายทอดผ่าน การแถลงข่าวร่วมกันระหว่างผู้นำสองประเทศ ที่จัดขึ้นในเมืองหลวงของลาว

ผู้นำลาวชี้เป็นนัยว่า ความตึงเครียดนี้อาจจะเกิดจากการสื่่อสารที่ผิดพลาดบกพร่อง เนื่องจากตนเองยังไม่ได้รับหนังสือของ นรม.กัมพูชา ที่ส่งมาครั้งล่าสุด เกี่ยวกับการให้ถอนทหาร และ "การยืนคำขาด" ในกรณีดังกล่าว

"น่าเสียดายที่ตอนนี้ ข้าพเจ้ายังไม่ได้รับจดหมายจาก นรม.ฮุนเซนฯ.. แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วันนี้พวกเราได้ปรึกษาหารือกันอย่างตรงไปตรงมาและอย่างเป็นมิตร เพื่อมิให้สถานการณ์ที่ชายแดนลาวมีความตึงเครียด มิให้ก้าวไปถึงการใช้กำลัง ข้าพเจ้ากับสมเด็จฯ นายกฯ ฮุนเซน ได้ตกลงกันว่า ฝ่ายลาวจะถอนกำลังทั้งหมด ที่ยังไม่ถอนออก ภายหลังนายกฯ สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้สั่งให้ยุติการสร้างเส้นทาง เข้าไปใน.. ข้าพเจ้าได้สั่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องถอนออกทั้งหมด.."

การแถลงข่าวครั้งนี้ มี พล.อ.เตียยัญ รมว.กลาโหม ที่ติดตาม นรม.กัมพูชาไปเวียงจันทน์ ร่วมอยู่ด้วย เช่นเดียวกับ พล.ท.จันสะหมอน จันยาลาด รมว.ป้องกันประเทศของลาว
.

1
ผู้นำลาวกล่าวว่า นรม.กัมพูชาได้ตกลงจะสั่งถอนกำลังที่สะสมอยู่ในบริเวณดังกล่าสวออกไปทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนสองประเทศกัมพูชา-ลาวว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาขึ้นมา และ ตกลงให้คณะกรรมการชายแดนสองฝ่ายประชุมเจรจา แก้ไขปัญหาชายแดนที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน ให้แล้วเสร็จไปโดยไว และ จะสร้างเงื่อนไขให้มีการปรึกษณาหารือกัน เมื่อเกิดปัญหา และ ใช้หลักฐานต่างๆ รวมทั้งสนธิสัญญา กับแผนที่ที่มีอยู่เป็นพื้นฐานในการปรึกษาหารือดังกล่าว

เหตุการณ์อันเป็นพิเศษอย่างยิ่งก็คือ ในช่วงท้ายการแถลงข่าว ระหว่าง นรม.กัมพูชา ตอบข้อซักถามของสื่อนั้น ดร.ทองลุน ได้ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาเขมรเป็นภาษาลาวด้วยตัวเอง และ ทำได้อย่างคล่องแคล่ว โดย นรม.กัมพูา ได้กล่าวย้ำให้สื่่อรายงาน เรื่องราวทั้งหมดอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความเข้าใจอันดี ให้แก่ประชาชนทั้งสองชาติ

นับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน และ การโทรคมนาคมทันสมัย สะดวกสบาย แต่กลับมีปัญหาในเรื่องการสื่อสาร ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดความล่าช้าในขณะนี้ แต่ นรม.กัมพูชา กล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวร่วมว่า "ปัญหานี้ได้ทำให้พวกเรามาพบกัน (ที่นี่) ในวันนี้"

ผู้นำกัมพูชาได้ยืนยัน เนื้อหาที่ผู้นำลาวแถลงอีกครั้งหนึ่ง โดยฝ่ายลาวได้ให้คำมั่นต่อทุกๆ คน จะถอนกำลังข้ามแม่นำเซกองกลับไปยังอีกฝั่งหนึ่ง เช่นเดียวกันกับกัมพูชา ที่จะถอนออกไปจากทั่วอาณาบริเวณ เพื่อนำสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ความเป็นปรกติ สร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองประเทศ ระหว่างรัฐบาลและกองทัพ

สองผู้นำได้ร่วมกันปวารณา จะแก้ไขปัญหาชายแดนให้ลุล่วงโดยเร็ว เพื่อให้เป็นมรดกตกทอดสู่ประชาชนคนรุ่นหลัง
.
.

คืนวันพฤหัสบดี 10 ส.ค.2560 กัมพูชาเคลื่อนกำลังพล จาก 2 หน่วย ใน จ.พระวิหาร กับ จ.สะตึงแตร็ง มุ่งไปยังชายแดนพิพาท ด้าน จ.สะตึงแตร็ง-อัตตะปือ พร้อมจรวดชุด "กราด" BM-21 หลายคัน -- นรม.กัมพูชา ได้เปิดเผยเรื่องนี้ในวันรุ่งขึ้น โดยกล่าวในตอนหนึ่งว่า ลาวกัมพูชาเป็นเพื่อนกัน แต่ "เพื่อนเหยียบหัวเพื่อนแบบนี้มันไม่ไหว ผมจะไม่อดทนอีก" ผู้นำกัมพูชายังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้พูดเรื่องนี้แบบตัวต่อตัว กับ นรม.ลาวทองลุน สีสุลิด หลายครั้ง แต่ไม่มีการตอบสนอง รวมทั้งยังไม่ตอบหนังสือที่ส่งไปครั้งล่าสุดเพื่อทักท้วงอีกครั้ง.. คราวนี้ฝ่ายกัมพูชา ยื่นคำขาด ให้ลาวถอนทหารประมาณ 30 นาย ออกจากเขตแดนพิพาทภายใน 6 วัน.

2

3

4

5

6

7

8
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเปิดเผยเกี่ยวกับความขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้ ในวันศุกร์ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยโพสต์ความปราศัยในเหตุการณ์หนึ่งในกรุงพนมเปญ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุในตอนหนึ่งว่า “ผมไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป มันไม่ถูกต้องที่เราจะสู้กัน แต่หากพวกเขาไม่ถอนกำลังออกไป เราก็จำเป็นต้องทำ เราไม่ได้ประกาศสงคราม เราเพียงขอแผ่นดินของเรากลับคืน” พร้อมยื่นคำขาดให้ลาวต้องถอนทหารออกไปภายในวันที่ 17 ส.ค.

สื่อบางสำนักในกัมพูชา ได้เผยแพร่ภาพการเคลื่อนกำลังทหารของฝ่ายกัมพูชา ไปยังชายแดนลาว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในคืนวันพฤหัสบดี 10 ส.ค. (ก่อนที่ฮุนเซนจะเปิดเผยเรื่องนี้) และ ทั้งสองหน่วย เคลื่อนจากที่ตั้งใน จ.พระวิหาร และ สะตรึงแตร็ง

ฮุนเซนเดินทางเยือนลาวครั้งล่าสุดในเดือน ม.ค.ปีนี้ เพื่อร่วมกับ ดร.ทองลุน เป็นประธานในพิธีเปิดใช้ด่านตรวจคนเข้าเมืองสากลหนองนอกเขียน-ตะปางเกรียล ที่ชายแดนด้านแขวงจำปาสัก-จ.สตึงแตร็ง ในคราวเดียวกัน นรม.กัมพูชา ได้เดินทางไปเยี่ยมชมการก่อสร้างเขื่อนดอนสะโฮงของลาวด้วย

ก่อนหน้านี้คณะกรรมการชายแดนลาว-กัมพูชา ได้ประชุมหารือกันหลายครั้ง ในการแก้ไขปัญหาชายแดนแดนกับการปักปันเขตแดนสองประเทศ ที่ยังมีอีกหลายจุด ยังไม่แล้วเสร็จ ตั้งแต่ด้านแขวงอัตตะปือ จำปาสัก จนถึง ด้าน จ.พระวิหาร ของกัมพูา

แต่ในขณะที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ สองฝ่ายก็ได้มีความพยายาม ในความร่วมมือร่วมมือกันหลายโครงการตามแนวชายแดน รวมทั้งการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนอีกแห่งหนึ่ง ระหว่างอัตตะปือกับ จ.สะตึงแตร็ง นายลอง วิสาโร (อดีต) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กับนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รมว.การต่างประเทศลาว ได้ร่วมกันนำคณะลงสำรวจสถานที่จริง ระหว่าง 2-4 พ.ย.ปีที่แล้ว.