ซินหวา - ประชาชนชาวเขมรนับหมื่นคนร่วมเฉลิมฉลองการขึ้นทะเบียนแหล่งโบราณสถานสมโบร์ไพรกุก เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของประเทศ โดยองค์การยูเนสโก ค่ำวานนี้ (17)
ปราสาทสมโบร์ไพรกุก ที่สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรเจนละ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 3 ของประเทศ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. โดย 2 แห่งแรกคือ ปราสาทนครวัด และปราสาทพระวิหาร ที่ได้รับการจดทะเบียนเมื่อปี 2547 และปี 2551 ตามลำดับ
นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้กล่าวต่อประชาชนเกือบ 10,000 คน ที่เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองภายในสนามกีฬาโอลิมปิกแห่งชาติ ในกรุงพนมเปญ ว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทสมโบร์ไพรกุก เป็นมรดกโลกเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ในการรักษา และพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ
“นี่เป็นความภาคภูมิใจครั้งใหม่ของทั้งชาติ” ผู้นำเขมรกล่าวในพิธีเฉลิมฉลองที่ถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์
นายกฯ ฮุนเซน ระบุว่า การขึ้นทะเบียนแหล่งโบราณสถานปราสาทสมโบร์ไพรกุก เป็นแหล่งมรดกโลกนั้นจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ ผู้นำเขมรยังเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันปกป้องสันติภาพ และมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ
ปราสาทสมโบร์ไพรกุก ตั้งอยู่ในผืนป่าอันเงียบสงบใน จ.กำปงธม ห่างจากกรุงพนมเปญทางเหนือราว 193 กิโลเมตร โดยแหล่งโบราณคดีสมโบร์ไพรกุก นั้นเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของยุคสมัยก่อนพระนคร หรืออาณาจักรเจนละ
ข่าวประชาสัมพันธ์ขององค์การยูเนสโก ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกระบุว่า เป็นเมืองอิศานปุระ เมืองหลวงของอาณาจักรเจนละ ที่รุ่งเรืองในช่วงปลายศตวรรษที่ 6 และต้นศตวรรษที่ 7 ครอบคลุมพื้นที่ 25 ตารางกิโลเมตร ร่องรอยของเมืองที่ยังหลงเหลือให้เห็น ประกอบด้วย ศูนย์กลางเมืองที่มีแนวกำแพงล้อมรอบ และปราสาทอีกจำนวนหนึ่งที่ประดับตกแต่งด้วยหินทราย ที่บางชิ้นเป็นผลงานศิลปะล้ำค่า
การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งใน 4 เสาหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจของกัมพูชา ตามรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยว ระบุว่า ในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเยือนเขมร 5 ล้านคน ทำรายได้ราว 3,400 ล้านดอลลาร์ และทางการกัมพูชาได้คาดการณ์ว่า จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ถึง 7 ล้านคน และทำรายได้ 5,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2563.
.
.
.
.
.
.