MGRออนไลน์ -- สุนัขตัวหนึ่งได้กลายเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 2 ครั้งในเวลาไล่เรี่ยกัน เคราะห์ดีบุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้งสองราย ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส และ สวมหมวกกันน็อก ถึงแม้รถจักรยานยนต์ ยานพาหนะที่ขับขี่จะเสียหลัก ล้มลงอย่างรุนแรงก็ตาม แตในทางตรงข้ามการถูกชนถึงสองครั้ง ทำให้สุนัขถึงแก่ชีวิต
พูดไม่ได้ ไม่สามารถจะบอกเล่าความเจ็บปวดให้คนได้รับรู้ได้ แต่เหตุการณ์ในวิดีโอความยาว 1 นาทีเศษ แสดงให้เห็นสุนัขถูกชนอย่างรุนแรง ร่างถูกเหวี่ยงไปตามท้องถนนลาดยาง เฉออกข้างทาง สันหลังไปกระทบกับเสาเหล็กที่ปักอยู่บนฟุตบาท นอนชักกระตุกอยู่พักหนึ่งก่อนนิ่งไป โดยไม่มีผู้ใดใส่ใจเหลียวแล
นี่คือเหตุการณ์ในตอนเช้าวันที่ 20 พ.ค. และ ได้กลายเป็นวิดีโอคลิป ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดอีกชิ้นหนึ่งในโลกออนไลน์ ของชาวเวียดนาม ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งมีการตั้งคำถามขึ้นมาว่า "ใครผิด -- คนชนหมาหรือหมาชนคน" และ "ทำไมคนจึงไม่ช่วยหมา (ที่บาดเจ็บ)" และ ยังคงถกเถียงกันต่อๆ มาแบบไร้ข้อสรุป
ตามรายงานของโซฮาออนไลน์ เหตุเกิดนนถนนสายหนึ่ง ในย่านรอบนอกของกรุงฮานอย ช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลาเช้า และ ท้องถนนโดยรวมยังคงโล่งๆ ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก หญิงสาวควบรถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว ชนสุนัข และ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ รถจักรยนต์เสียหลักล้มลง เธอหล่นลงพื้นถนน กลิ้งไป 2-3 ตลบ ก่อนทรงตัวนั่ง ในท่าก้นกระแทกกับพื้นถนนอย่างแรง แต่โชคดีที่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น มีผู้เห็นเหตุการณ์เข้าช่วยเหลือ ช่วยยกรถจักรยานยนต์ ที่ไถลออกไปข้างทาง
แต่เรื่องก็ยังไม่จบ..
สุนัขที่ถูกรถจักรยานยนต์ชน อยู่ในอาการตกใจสุดขีด เสียขวัญ วิ่งเตลิดหนี ข้ามไปยังอีกซีกหนึ่งของถนน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับชายคนหนึ่ง ควบรถจักรยานยนต์สวนมา ด้วยความเร็วสูง จึงชนสุนัขเข้าอย่างจัง รถจักรยานยนต์เสียหลัก ล้มไถลไปตามพื้นถนนลาดยาง คนขี่ตัวก็กลิ้งไปหลายตลบ แต่ก็โชคดีอีก ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าขาดเจ็บเป็นแผลถลอก ฟกช้ำเล็กๆ น้อยๆ และ มีผู้เห็นเหตุการณ์ 2-3 คนปรี่เข้าไปช่วยเหลือ
ต่างไปจากสุนัขเคราะห์ร้าย .. ที่ถูกชนกระเด็นไป และ สันหลังไปกระทบกับเสาเหล็กเข้าอย่างรุนแรง อาจถึงกับทำให้กระดูกสันหลุด หรือหลังหักไปหลายข้อ ถ้าหากคลิปชิ้นนี้บันทึกเสียงมากด้วย ก็คงจะได้ยินเสียงสุนัขร้องโหยหวน ครวญคราง ขณะชักกระตุก แต่หน้าพลเมืองดีหลายคน ที่ปรี่เข้าไปช่วยชายเคราะห์ร้าย ผู้ขับรถจักรยานยนต์ชนสุนัข
.
.
ชายคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากดัง ที่กล่าวมาแล้ว แต่สุนัขเสียชีวิต อันเป็นเหตุการณ์หนึ่ง ที่จุดชนวนให้ชาวเน็ตเวียดนามจำนวนมาก ถกเถียงกันในเวลาต่อมา เกี่ยวกับความถูกต้อง ความยุติธรรม ศีลธรรม และ เมตตาธรรมต่อเพื่อนร่วมโลก
"รถชนหมาชัดๆ ไม่ใช่หมาชนรถ แต่ไม่มีใครช่วยหมาเคราะห์ร้าย หรือ แม้แต่จะชายตามองดู ทำไมมนุษย์เราจึงใจดำได้ขนาดนี้" ชาวเน็ตคนหนึ่ง ตั้งคำถาม แสดงความเห็น ที่กลายเป็นการสร้างประเด็น ถกเถียงขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ผู้ที่อ้างว่าตนเองอาศัยอยู่ริมถนนบริเวณที่เกิดเหตุ และ เห็นเหตุการณ์โดยตลอด อ้างว่าเหตุเริ่มจากสุนัขเคราะห์ร้าย วิ่งข้ามถนนไปไล่กวดสุนัขที่เล็กกว่าตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นของเพื่อนบ้านทางฝั่งนั้น (ตอนต้นคลิปจะเห็นสุนัขตัวน้อยวิ่งเตลิดหนี ด้วยความตกใจ หลังเกิดอุบัติเหตุครั้งแรก) และ เป็นช่วงหญิงสาว ควบรถจักรยานยนต์ผ่านมา ด้วยความเร็วมาก และ ไม่ทันระวัง
"นั่นคือความผิดพลาดตั้งแต่เริ่ม คือ การขับขี่ด้วยความเร็วสูง เธออาจจะห้ามล้อได้ทัน หากไม่รีบร้อนขนาดนี้" ชายคนเดียวกันกล่าว ในขณะที่อีกไม่น้อยออกโต้แย้ง และ ชี้ไปยังสุนัขต้นเหตุ เนื่องจากสัตว์เลี้ยงควรจะถูกกักบริเวณให้อยู่ภายในบ้าน เจ้าของสุนัขควรจะต้องเลี้ยงดูอย่างรับผิดชอบ ไม่ปล่อยให้ออกไปยังถนน อันเป็นพื้นที่เพื่อการจราจร
"หมาตัวนี้อาจตายเพราะถูกชน หรือถูกทับจนแบน ทั้งแต่เหตุการณ์แรก ถ้าหากรถที่ชน เป็นรถบรรทุก หรือ เป็นรถยนต์ขนาดใหญ่ ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์อย่างที่เห็น" ชาวเน็ตคนหนึ่งยกข้อเท็จจริงอีกมุมหนึ่ง ขึ้นมาถกเถียง ...
ช่วงเวลากว่า 20 วันที่ผ่านมา มีผู้ชมคลิปนี้กว่า 40,000 ครั้ง ทางโซฮาออนไลน์เพียงสำนักเดียว ยังมีเว็บไซต์อีกหลายแห่ง นำคลิปชิ้นนี้เผยแพร่ต่อไป และ แต่ละเวทีก็มีผู้เข้าชมนับหมื่นๆ มีผู้เข้าร่วมวงถกเถียงหลายพันคน
ไม่ว่าใครจะถูกหรือผิดก็ตาม ชาวเวียดนามออนไลน์ส่วนใหญ่ ยังคงตำหนิทั้งหญิงและชายในสองเหตุการณ์นี้ เนื่องจากขับขี่้ด้วยความเร็วมาก ซึ่งถ้าหากขับช้ากว่านี้อีกสักนิด ก็อาจหลีกเลี่ยงการปะทะชนสุนัขได้ ตนเองก็อาจจะไม่บาดเจ็บ รถจักรยายนต์ก็อาจจะไม่เสียหายโดยไม่จำเป็น และ อีกชีวิตหนึ่งก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนร่วมโลกของคนต่อไป
ชาวเวียดนามที่นิยมรับประทานเนื้อสุนัขมีจำนวนไม่มาก และ มีเพียงในบางจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ ในนั้นส่วนใหญ่ จะรับประทานด้วยเหตุผลแปลกๆ มิใช่ด้วยความเอร็ดอร่อย
ถ้าเทียบกับประชากรราว 92 ล้านคนในปัจจุบัน จำนวนนักเปิบเมนูสุนัข ก็จะเป็นเพียงเสี้ยวกระผีกหนึ่งของเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ขณะที่ชาวเวียดนามส่วนมาก นิยมเลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าบ้าน เลี้ยงเป็นเพื่อน หรือเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก เป็นเหมือนสมาชิกหนึ่งในครอบครัว ก็จึงไม่ต้องแปลกใจที่มีผู้คนจำนวนมาก ตำหนิ "คนใจดำ" ในคลิปชิ้นนี้ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจสุนัขคราะห์ร้าย และ ปล่อยให้ตายไปต่อหน้าต่อตา.