MGRออนไลน์ -- ตำรวจปราบปรามความชั่วร้ายทางสังคม ได้ยกกำลังเข้าตรวจค้นร้านอบซาวน่าและสปาแห่งหนึ่ง ในเขตฝูญวน (Phu Nhuan) นครโฮจิมินห์ หลังได้เบาะแสว่า มีการค้าประเวณีแอบแฝง และ สามารถจับกุมหญิงสาว 3 คน แบบคาหนังคาเขา ขณะให้บริการลูกค้าชาวจีน เมื่อขยายผลการสอบสวน จึงได้ทราบว่า ทำกันเป็นกระบวนการ มีสาวสวยในเครือข่ายไม่ต่ำกว่า 20 คน
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดิ๊ตเหวียด (ดินแดนเวียดนาม) ในบรรดาหญิงสาว ที่แอบแฝงขายบริการทางเพศ ที่ร้านซาวน่าและสปา แห่งนั้นทุกคนรูปร่างดี หุ่นดี หน้าตาดี บางคน "สวยราวกับดารานักแสดง" เก็บค่าบริการจากลูกค้า 900,000-1,200,000 ด่ง (1,400-1,800 บาท) ต่อครั้ง โดยหญิงสาวจะเป็นฝ่ายเรียก และ ตกลงกับผู้ไปใช้บริการด้วยตนเอง
เป้าหมายของหญิงสาวกลุ่มนี้ พุ่งไปที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นหลัก ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ หลั่งไหลเข้าสู่เวียดนาม นับแสนๆ คนต่อปี ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซึ่งรวมทั้งนักท่องเที่ยว "เกรด A" ด้วย โดยกลุ่มนี้จะผ่านการจัดหาโดยนายหน้า ไปยัง "เจ้าสำนัก" อีกที หญิงสาวผู้ให้บริการอย่างแท้จริง จะต้องจ่ายส่วนแบ่งให้แก่ เจ้าของกิจการ 400,000 ด่ง (ราว 600 บาท) ต่อครั้งเป็นพื้นฐาน
สื่อออนไลน์ภาษาเวียดนามอีกสำนักหนึ่ง รายงานว่า จากการตรวจเอกสารที่ค้นพบ เจ้าหน้าที่ได้พบว่า สถานซาวน่าและสปาแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ พ.ค.2559 แต่เริ่มขายบริการทางเพศ ตั้งแต่ 1 มี.ค.2560 เป็นต้นมา
เจ้าหน้าที่ได้พบรายชื่อหญิงสาวที่ขายบริการ ซึ่งหลายคนไปไกลจาก จ.เตี่ยนซยาง ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง อีกหลายคนไปจากจังหวัดทางตอนกลางของประเทศ ที่เหลือเป็นชาวไซ่ง่อน ซึ่งในนั้นหลายคนเป็นนางแบบ
เจ้าหน้าที่ยังพบรายชื่อลูกค้าชาวจีน ที่ถูกจัดหาหรือถูกนำตัวไปที่นั่น เป็นจำนวนมาก ทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ จีนฮ่องกง และ จีนไต้หวัน มีบางคนกลับไปใช้บริการที่นั่นอีกเป็นครั้งที่ 2 และ ยังพบลูกค้าชาวเอเชียชาติอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง
.
2
เจ้าหน้าที่ได้จับกุมเจ้าของร้าน เพื่อดำเนินคดี แต่เจ้าตัวยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา "เป็นผู้จัดหาหญิงสาวเพื่อการค้าประเวณี" โดยอ้างว่า ที่นั่นเป็นสถานที่บริการด้านสุขภาพอย่างแท้จริง และ ได้กำชับพนักงานหญิง-ชายทุกคน ห้ามขายบริการทางเพศ อีกทั้งไม่ทราบว่ามีการขายบริการทางเพศในร้านของตน
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลเขตฝูญวนกล่าวว่า ได้ทราบเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน จากคนภายในสถานบริการแห่งนั้นเอง และ อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพื่อเข้าตรวจค้น แต่กองบังคับการปราบปรามความชั่วร้ายทางสังคม ลงมือปฏิบัติการเสียก่อน
พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ประกาศสงครามกับ "สิ่งชั่วร้ายทางสังคม" (Social Evils) มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งในนั้นคือ การคอร์รัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่ของรัฐ การค้าและเสพยาเสพติด กับ การค้าประเวณี สำหรับอันหลังนี้ทั้งในโฮจิมินห์ และ ในกรุงฮานอย เมืองหลวง เป็นปัญหามากที่สุด ซึ่งกองบังคับการตำรวจปราบปรามความชั่วร้ายทางสังคม ก็ตั้งขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ทางการประสบความสำเร็จพอสมควร ในการกำราบการค้าประเวณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การจับกุมและปราบปรามต่อเนื่อง ได้ทำให้การค้าตามริมถนน ตามสวนสาธารณะ และ แหล่งอื่นๆ หมดไป การเข้าตรวจค้นจับกุมตามโรงแรม ร้านเสริมสวย ร้านอาหาร รวมทั้งสถานบันเทิงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ได้ทำให้การค้าประเวณีแอบแฝงลดลงเรื่อยๆ แม้จะยังไม่หมดไปก็ตาม
องค์กรนักเคลื่อนไหวสังคม รวมทั้งหน่วยงานของรัฐเอง ได้ศึกษาผลดีผลเสีย ในการทำให้การขายบริการทางเพศถูกกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือหญิงขายบริการ มิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ขณะเดียวกันรัฐก็มีรายได้จากภาษี ที่จัดเก็บจากแหล่งบริการอีกด้วย แต่รัฐบาลที่ผ่านมา ไม่เห็นชอบตามหลักการและวิธีการที่ เป็นผลจากการศึกษา การค้าประเวณีจึงเป็นสิ่งชั่งร้ายทางสังคมต่อไป.
