xs
xsm
sm
md
lg

สวนยางลาว-เขมรพ่นพิษ เศรษฐีเวียดเจ้าของเครื่องบินส่วนตัวคนแรกตัดใจขายทิ้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>รวยเป็นบ้า สมถะเรียบง่าย ใจนักเลง ถึงลูกถึงคน นี่คือชาวเวียดนามคนแรกที่มีเครื่องบินส่วนตัวใช้ จนรัฐบาลต้องออกกฎหมายมารองรับ ดว่าน งเวียน ดึ๊ก ประธานบริษัทหว่างแองยาลาย และ ประธานสโมสรฟุตบอลชื่อเดียวกัน เคยเป็นผู้ที่เศรษฐีเวียดนามด้วยกันต้องอิจฉา แต่หลายปีมานี้เงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ เข้าไปจมอยู่ในลาวและกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ยางพารานับแสนๆ ไร่ ที่กำลังให้น้ำยาง แต่ราคาในตลาดโลกต่ำสุดขีด ปัจจุบันยังหาตลาดยากอีกต่างหาก.  </b>

MGRออนไลน์ --- นายดว่าน งเวียน ดึ๊ก ประธานกลุ่มบริษัทหว่างแองยาลาย (Hoang Anh Gia Lai) ได้ตัดสินใจขายเครื่องบินส่วนตัวแล้ว หลังจากครอบครองมาเป็นเวลา 9 ปี เป็นการปิดตำนานการเป็นเศรษฐีคนแรก ที่มีอากาศยานส่วนตัวใช้ในประเทศคอมมิวนิสต์เวียดนาม

บริษัทสายการบินเวียดสตาร์แอร์ไลน์ส (Vietstar Airlines) ได้ออกยืนยันข่าวเล่าลือ เกี่ยวกับการซื้อเครื่องบินบีชคราฟท์ คิงแอร์ 350 (Beechcraft King Air 350) โดยบริษัทจะนำไปให้บริการผู้โดยสารแบบเช่าเหมาลำ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เหงือยเดือติน (Nguoi Dua Tin) รายงานเรื่องนี้ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับราคาซื้อขาย

ดว่าน งเวียน ดึ๊ก (Doan Nguyen Duc) ประธานกลุ่มบริษัทหว่างแองยาลาย ประธานผู้ก่อตั้งและเจ้าของสโมรฟุตบอลหว่างแองยาลาย ซื้อเครื่องบินลำนี้ในเดือน ธ.ค. 2551 ในราคา 5.1 ล้านอลลาร์ และ ต้องเสียภาษีอีกราว 2 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นเครื่องบินส่วนตัวลำแรกในเวียดนาม และ นายดึ๊กได้กลายเป็นเอกชนคนแรกที่มีเครื่องบินใช้ ในประเทศคอมมิวนิสต์

ปีที่ซื้อนั้นเวียดนามยังไม่มีกฎหมายอนุญาตให้เอกชนมีเครื่องบินหรืออากาศยานใดๆ ใช้ส่วนตัวได้ นายดึ๊กต้องจอดเครื่องบินของเขาไว้ ที่สนามบินด่าหนัง เป็นเวลาเกือบครึ่งปี จึงได้รับอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง และ มีใช้งานส่วนตัว จากองค์การการบินพลเรือนเวียดนาม โดยว่าจ้างนักบินชาวต่างชาติ

การครอบครองเครื่องบินส่วนตัวของนายดึ๊ก ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของนักธุรกิจ เจ้าของบริษัท ในสังคมคอมมิวนิสต์ที่เมื่อก่อน จะใช้ชีวิตสมถะ ร่ำรวยเงียบๆ เนื่องจากเกรงจะถูกจับตาจากทางการและสังคมรอบข้าง

นายดึ๊ก เคยให้สัมภาษณ์ในครั้งโน้นว่า กิจการของ HAGL มีอยู่ทุกหนแห่งเหนือจดใต้ และ ยังมีกิจการในลาว ทั้งสวนยางพารา ทั้งเขื่อนผลิตไฟฟ้า โรงงานน้ำตาล และ กำลังขยายเข้าพม่า เครื่องบินส่วนตัว ทำให้เขาไปไหนมาไหนได้ทั่วอนุภูมิภาคนี้ ได้ในเวลาแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น
         
ผลิตโดยบริษัทบีชคราฟท์แห่งสหรัฐ คิงแอร์ 350 สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 11 ที่นั่ง บินได้ไกลกว่า 2,000 กิโลเมตร จึงไปได้ทุกปลายทางในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง ซึ่ง HAGL ขายธุรกิจและการลงทุน ครอบคลุมไปในทุกประเทศ ตอนที่นายดึ๊กซื้อนั้น เครื่องบินคิงแอร์ 350 ใข้งานมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

นายดึ๊ก กับ HAGL มีสวนยางพาราในกัมพูชาและในภาคใต้ของลาว เนื้อที่รวมกันนับแสนๆ ไร่ เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า สวนยางในกัมพูชาและลาว จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัท ปีละไม่ต่ำกว่า 300 ล้านดอลลาร์ แต่ความหวังดับวูบลงเมื่อราคายางพาราในตลาดโลกตกต่ำหนัก หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งเหว

การนำเงินออกลงทุนในต่างแดนมหาศาล ทำให้ธุรกิจอื่นๆของ HAGL ในเวียดนามลำบากไปด้วย และ เนื่องจากเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ถ้าเกิดล้มขึ้นมาก็จะส่งผลกระทบในวงกว้าง รัฐบาลเวียดนามจึงต้องเข้าช่วยพยุงกิจการ โดยเจรจากับธนาคารเจ้าหน้าหนี้ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้เย และการผ่อนปรนหนี้ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีรายงานว่า HAGL มีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ย ถึงเดือนละ 1 ล้านดอลลาร์

สื่อของทางการรายงานว่า 4 เดือนแรกของปีนี้ หนี้สินของ HAGL พอกพูนขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านล้านด่ง หรือ กว่า 65 ล้านดอลลาร์.
กำลังโหลดความคิดเห็น