รอยเตอร์ - บริษัท Puma Energy Asia Sun กิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท Puma Energy และบริษัท Asia Sun Energy ของพม่า กำลังหาทางที่จะขยายการลงทุนของบริษัทนอกเหนือไปจากการให้บริการจัดเก็บเชื้อเพลิงในพม่า ที่รวมทั้งการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมัน ตามการเปิดเผยของผู้บริหารระดับสูง
ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงของพม่ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และกำลังกลายเป็นผู้นำเข้ารายสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัทเพิ่งเปิดคลังน้ำมันขนาดใหญ่ และใหม่ที่สุดของประเทศไปเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ด้วยขนาดรองรับมากถึง 91,000 ลูกบาศก์เมตร ในย่านติละวา ชานนครย่างกุ้ง
คลังน้ำมันมูลค่า 92 ล้านดอลลาร์ ออกแบบให้รองรับน้ำมันชนิดกลางเป็นส่วนใหญ่ โดยพื้นที่ขนาด 29,000 ลูกบาศก์เมตร ไว้สำหรับรองรับน้ำมันโซลาร์ และ 21,000 ลูกบาศก์เมตร สำหรับเชื้อเพลิงเครื่องบิน ส่วนอีก 17,000 ลูกบาศก์เมตร จะให้เก็บน้ำมันเบนซิน และส่วนที่เหลือเพื่อรองรับน้ำมันดิน และน้ำมันเชื้อเพลิง
บริษัท Puma Energy Asia Sun เพียงแค่ให้บริการจัดเก็บเชื้อเพลิง แต่ก็มีความตั้งใจที่จะยื่นขอใบอนุญาตจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมัน ตามการเปิดเผยของเดวิด โฮลเด้น ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทจะได้รับใบอนุญาตดังกล่าวเมื่อใด
“จากการเปลี่ยนแปลงของตัวกฎหมายการลงทุนของพม่าเมื่อวันที่ 1 เม.ย. บริษัท Puma Energy Asia Sun กำลังสำรวจตรวจสอบสิทธิในการขยายธุรกิจของบริษัทให้ครอบคลุมทุกด้านของห่วงโซ่อุปทาน” โฮลเด้น กล่าว
“เราเชื่อว่าบริษัท Puma Energy เป็นหนึ่งใน 3 กิจการต่างชาติในการประมูลรอบสุดท้ายเพื่อร่วมถือหุ้นใน Myanmar Petroleum Products Enterprise (MPPE) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจธุรกิจน้ำมันของพม่า ในการเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจปลายน้ำด้านเชื้อเพลิงของประเทศ” ผู้จัดการบริษัท Puma Energy Asia Sun กล่าว
พม่า ที่มีโรงกลั่นขนาดเล็ก 3 แห่ง ด้วยขนาดการผลิตรวมต่ำกว่า 80,000 บาร์เรลต่อวัน ได้ปฏิรูปกฎหมายที่กำกับดูแลการลงทุนจากต่างชาติเพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติให้มากขึ้น
ภายใต้การประมูล บริษัทผู้ชนะจะได้ถือหุ้นขนาดเล็กส่วนหนึ่งใน MPPE และจะเป็นผู้ดำเนินการปรับปรุงคลังน้ำมัน 28 แห่ง พร้อมกับจุดจำหน่ายน้ำมันอีก 13 แห่ง โฮลเด้น ระบุ
สำหรับอัตราการบริโภคพลังงานของพม่า คาดว่าพม่าจะบริโภคน้ำมันเบนซิน 93,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ และขยับเป็น 111,000 บาร์เรลต่อวัน ในปีถัดไป โดยขยายตัวขึ้น 24% และ 48% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2559.