MGRออนไลน์ -- องค์การการบินพลเรือนเวียดนาม ได้ประกาศเตือนผู้โดยสาร เที่ยวบินในประเทศ ต้องเพิ่มความระมัดระวัง และ เฝ้าจับตา ดูกระเป๋าสัมภาระของตน ในห้องโดยสารบนเที่ยวบินต่างๆ ให้พ้นมือพวกมิจฉาชีพในคราบผู้โดยสารด้วยกัน ที่แอบล้วง แอบแงะ เอาสิ่งของมีค่า สายการบินต่างๆ ได้ออกเตือนในเรื่องเดียวกันนี้ หลังเกิดเหตุทรัพย์สินของผู้โดยสารสูญหาย ถึง 11 กรณี ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้
โจรในคราบผู้โดยสาร ที่ถูกจับได้ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ ที่เดินทางไปยังปลายทางต่างๆ กับเที่ยวบินในประเทศของเวียดนาม เพื่องัดแงะ และ ขโมยสิ่งของมีค่าของผู้โดยสารอื่นๆ โดยเฉพาะ
ตามรายงานของคณะกรรมการการบินพลเรือน ปีที่แล้วทั้งปีเกิดกรณีขโมย หรือ งัดแงะกระเป๋าผู้โดยสารบนเที่ยวบิน เกือบ 20 กรณี ในนั้น 14 กรณี เกิดขึ้นในเดือน พ.ย.เพียงเดือนเดียว เพราะฉะนั้นการเกิดถึง 11 กรณีในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา จึงเป็นมูลเหตุเพียงพอ จะต้องออกเตือนผู้ที่เดินทางไปกับเที่ยวบินต่างๆ ในช่วงนี้ และ นายโต๋ ตึ ฮึง (To Tu Hung) รองอธิบดีกรมความปลอดภัยการบิน สำนักงานคณะกรรมการการบินพลเรือนเวียดนามกล่าวว่า ทั้งหมดแสดงให้เห็น "พัฒนาการของอาชญากรรม" ที่เปลี่ยนรูปแบบไป
เวียดนามแอร์ไน์ส สายการบินแห่งชาติยืนยันก่อนหน้านี้ว่า ได้ดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็น ในการป้องกันการลักขโมยหรือการโจรกรรม บนเที่ยวบินในประเทศ และ เรียกร้องไปยังผู้โดยสาร ให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บนเครื่อง หากเกิดกรณีต้องสงสัยขึ้นมา และ เพียงแค่ 1 เดือน ได้เกิดกรณีดังกล่าวถึง 11 ครั้ง ทั้งบนเที่ยวบินในประเทศ และต่างประเทศ แต่ทุกกรณีเจ้าหน้าที่บนเครื่องสามารถ จับตัวคนร้ายได้ทั้งหมด
เมื่อปีที่แล้วการงัดแงะขโมยสิ่งของบนเที่ยวบิน เกิดขึ้นบนเที่ยวบินระหว่างประเทศของเวียดนามแอร์ไลน์สด้วยเหมือกัน กรณีแรกที่พบเป็นเที่ยวบินจากฮ่องกง ไปยังนครด่าหนัง แต่ในช่วงปลายปี มิจฉาชีพได้เริ่มหมายตาสายการบินในประเทศ เงินสดที่ผู้โดยสารเก็บในกระเป๋นเดินทาง เป็นเป้าหมายแรกของคนร้าย ที่มักลงมือปฏิบัติการในช่วงเช้าตรู่ หรือ ช่วงกลางดึก หรือ เวลาที่ผู้โดยสารกำลังหลับไหล สื่อของทางการ รายงานอ้างรองอธิบดีคนเดียวกัน
กรณีล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ พนักงานบริการบนเครื่อง ได้สังเกตเห็นผู้โดยสารชาวจีนคนหนึ่ง สับเปลี่ยนที่นั่ง ในมือถือกระเป๋า ที่ไม่ใช่ของตนเอง เพอร์เซอร์ หรือ หัวหน้าพนักงานบริการบนเครื่อง จึงแจ้งผู้โดยสาร 2 คนที่นั่งใกล้กัน ตรวจดูทรัพย์สินในกระเป๋า และ พบว่าเงินสดราว 100 ล้านด่ง (4,416 ดอลลาร์) ได้หายไป พร้อมเงินดอลลาร์อีก 400 ดอลลาร์ อีกคนสูญไปราว 13,000 ดอลลาร์
.
2
เมื่อเครื่องลงจอดที่ท่าอากาศยานโนยบ่าย กรุงฮานอย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการประสานงานล่วงหน้า จึงได้จับกุมผู้โดยสารชาวจีนดังกล่าว และ เงินสดทั้งหมดยังอยู่ครบ ในกระเป๋าเดินทางของเขา และ ในกระเป๋ากางเกงอีกส่วนหนึ่ง
เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลประชาชนฮานอย ได้ตัดสินจำคุกนายกุ้ยซิงเหลียน (Gui Xing Lian) วัย 47 ปี เป็นเวลา 2 ปี ฐานขโมยเงิน 4,000 ดอลลาร์ กับอีก 50 ล้านด่ง จากผู้โดสารคนอื่น บนเที่ยวบินจากนครด่าหนังไปยังฮานอย
นายฮึงกล่าวว่า ด้วยความเชื่อและความเข้าใจที่ว่า ท่าอากาศยานกับบนเครื่องบินโดยสาร เป็นสถานที่ปลอดภัยจากการโจรกรรม จึงทำให้ผู้โดยสารจำนวนมาก ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพโดยง่าย การไม่มีกล้องวงจรปิดรวจจับ ในห้องโดยสาร ทำให้ยากแก่การจับกุมคนร้าย ในขณะลงมือปฏิบัติการ
นายเหวียนมีงต๋วน (Nguyen Minh Tuan) รองผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจการท่าอากาศยานภาคใต้ ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่า คนร้ายอาจเฝ้าสังเกต มองหา "เหยื่อ" ตั้งแต่กระบวนการเช็คอิน จากนั้นหัวขโมยอาจจะหาทาง เก็บกระเป๋าของตน ไว้ใกล้ๆ กระเป๋าสัมภาระของเหยื่อเป้าหมาย
นายต๋วนกล่าวด้วยว่า การจัดการกับคนร้ายพวกนี้ไม่ง่าย หากไม่สามารถจับได้คาหนังคาเขา หรือ มีหลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนา ก็อาจจะไม่สามารถเล่นงานได้ ในยามที่ต้องเจอเจ้าหน้าที่ ขณะลงมือปฏิบัติการบนเครื่อง พวกนั้นอาจจะแก้ตัวว่า หยิบของผิด ไปหยิบของผู้โดยสารคนอื่นๆ เข้าโดยบังเอิญ เจ้าหน้าที่ก็จะไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ต่อไป.