เอพี - ตำรวจในนครย่างกุ้ง ของพม่า ยิงปืนเตือนสลายการเผชิญหน้ากันระหว่างชาวพุทธ และชาวมุสลิมหลายสิบคนเมื่อช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน
เหตุเผชิญหน้ากันระหว่างผู้นับถือต่างศาสนาเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน เมื่อกลุ่มชาวพุทธหัวรุนแรงเข้าไปยังชุมชนชาวมุสลิม โดยอ้างว่า มีชาวโรฮิงญาจำนวนหนึ่งหลบซ่อนอย่างผิดกฎหมายอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนามเพราะความอ่อนไหวของสถานการณ์ ระบุ
ชาวโรฮิงญาในพม่าถูกปฏิเสธสิทธิการเป็นพลเมือง และสิทธิพื้นฐาน ซึ่งชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกของประเทศ และไม่สามารถเดินทางได้หากไม่มีการอนุญาตเป็นพิเศษ
นักข่าวของเอพีในนครย่างกุ้ง ระบุว่า มีชาวพุทธประมาณ 30 คน บนถนน รวมทั้งพระสงฆ์ โดยที่บางคนถือก้อนหิน ขณะที่ชาวมุสลิมตั้งท่ารับมือเพื่อป้องกันตัวเอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงปืนเตือน 2 นัด เพื่อสลายกลุ่มคน ที่ทำให้ชายชาวมุสลิมอย่างน้อย 1 คน ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ
ความตึงเครียดระหว่างชาวพุทธ และมุสลิมแพร่กระจายไปทั่วประเทศนับตั้งแต่ความขัดแย้งรุนแรงปะทุขึ้นระหว่างชาวพุทธยะไข่ และชาวมุสลิมโรฮิงญาในปี 2555
ความรุนแรงในรัฐยะไข่ ยังเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา ที่ชาวโรฮิงญาเปิดฉากโจมตีด่านชายแดนตำรวจ จนนำไปสู่การปราบปรามครั้งใหญ่ของกองทัพพม่า ที่กลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามหลายร้อยคน และทำให้ประชาชนอีกราว 75,000 คน ต้องหลบหนีไปยังบังกลาเทศ.