เอพี - หน่วยงานเฝ้าระวังด้านสิ่งแวดล้อมได้กล่าวหาว่ารัฐบาลเวียดนาม และเจ้าหน้าที่ทหาร รับสินบนเพื่อทำปิดหูปิดตาต่อขบวนการลักลอบขนไม้จากกัมพูชาเข้ามาในประเทศ
สินบนจำนวนหลายล้านดอลลาร์ถูกจ่ายให้แก่ทั้งเจ้าหน้าที่เวียดนาม และกัมพูชา โดยผู้ค้าไม้ชาวเวียดนาม ตามรายงานของหน่วยงานสืบสวนสอบสวนด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่มีสำนักงานในอังกฤษที่เผยแพร่ในวันนี้ (8)
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่เวียดนามรับสินบนเพื่อแลกต่อการอนุมัติโควตานำเข้าไม้ซุง ส่วนเจ้าหน้าที่กัมพูชารับสินบนเพื่อเปิดพื้นที่ตัดไม้ และเส้นทางลักลอบขนไม้ ซึ่งการลอบตัดไม้ในกัมพูชาที่ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย มักเกิดขึ้นในพื้นที่คุ้มครอง เช่น อุทยานแห่งชาติ
ทางการกัมพูชากำหนดห้ามส่งออกไม้ซุง และตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นมา ยังห้ามขนไม้ผ่านด่านชายแดนกับเวียดนามด้วย แต่สำหรับเวียดนามนั้นมีโควตาสำหรับการนำเข้าไม้ที่เรียกเก็บภาษี
กระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามไม่ได้ตอบรับคำร้องของเอพีเพื่อขอความเห็นต่อรายงานฉบับดังกล่าว ซึ่ง เซียร์ รา รองหัวหน้ากรมป่าไม้กัมพูชา ระบุว่า การส่งออกไม้ซุงยุติลงในปี 2559 ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเป็นการกระทำอย่างลับๆ และผิดกฎหมาย
กัมพูชา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการตัดไม้ทำลายป่าสูงที่สุดในโลก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย และการทำข้อตกลงที่ดินอย่างไม่ถูกต้อง นอกจากนั้น การค้าไม้ส่วนใหญ่ยังมีหน่วยทหารให้การคุ้มครองที่ได้ประโยชน์จากข้อตกลงที่ทำกับผู้ตัดไม้
“ไม้ประมาณ 300,000 ลูกบาศก์เมตร ถูกลอบขนออกไปจากกัมพูชา และถูกนำมาฟอกให้ถูกต้องในเวียดนามด้วยโควตาเหล่านี้” รายงานระบุ และประเมินว่านับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.2559 มีการจ่ายเงินสินบนไปแล้วมากกว่า 13 ล้านดอลลาร์
หน่วยงานเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม ระบุว่า เวียดนาม และสหภาพยุโรปคาดว่าจะลงนามข้อตกลงที่จะพยายามรับรองให้มั่นใจว่าไม้ที่ส่งออกไปจากเวียดนามเป็นไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น
"นี่คือปฏิบัติการลักลอบขนไม้ครั้งใหญ่ที่สุดที่เราได้เห็นมาในหลายปีมานี้ เวียดนามต้องจัดการข้อตกลงที่มีกับสหภาพยุโรป เพื่อปราบปรามการลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย และการค้าที่เกี่ยวข้อง” นักรณรงค์คุ้มครองป่าไม้อาวุโสของกลุ่ม กล่าวในการแถลงข่าว
รายงานชี้ว่า การค้าผิดกฎหมายเกิดขึ้นขณะที่เวียดนามกำลังทำงานอย่างหนักในการปกป้องคุ้มครองป่าของตัวเอง แม้รัฐบาลเวียดนามจะส่งเสริมการขยายตัวของภาคส่วนการแปรรูปไม้เพื่อการส่งออกก็ตาม ซึ่งปัจจุบันเป็นรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก
รายงานระบุว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ของเวียดนามทำรายได้รวม 8,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบมีสัดส่วน 80% ของความต้องการของโรงงาน
กัมพูชา และลาวต่างจัดหาวัตถุดิบให้แก่เวียดนาม ซึ่งเป็นไม้ผิดกฎหมายที่มีมูลค่าเกือบ 750 ล้านดอลลาร์เฉพาะในปีเดียว แต่เพราะการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ในลาว ทำให้เวลานี้ผู้ลักลอบค้าไม้มุ่งความสนใจมาที่กัมพูชา.