เอพี - ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่าเดินทางกลับประเทศหลังสิ้นสุดการเยือนเยอรมนีและออสเตรียนานหนึ่งสัปดาห์ ความเคลื่อนไหวที่สร้างความวิตกให้กับบรรดานักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ที่กล่าวหากองกำลังทหารพม่าละเมิดสิทธิต่อกลุ่มชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ในประเทศ
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ ของทางการพม่ารายงานวานนี้ (1) ว่าพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้เดินทางเยือนบริษัท GROB Aircraft Co. ของเยอรมนี ที่มิน อ่อง หล่าย และคณะ ได้รับชมการสาธิตเครื่องบินตรวจการณ์และ ระบบการฝึกบินก่อนเดินทางกลับพม่าในคืนวันเสาร์ (29)
สหภาพยุโรปยังคงมาตรการห้ามค้าอาวุธกับพม่าตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ซึ่งข้อห้ามดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันอาทิตย์ และยังไม่แน่ชัดว่ามาตรการนี้จะต่ออายุหรือไม่ ซึ่งก่อนที่การห้ามค้าอาวุธจะถูกกำหนดขึ้นนั้น เยอรมนีเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ให้กับพม่า
เรื่องราวก่อนหน้านี้ที่รายงานในสื่อของทางการพม่าและหน้าเพจเฟซบุ๊กของพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ระบุว่า ในระหว่างการเยือนนานหนึ่งสัปดาห์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่าได้หารือกับเจ้าหน้าที่ด้านกลาโหมระดับสูงของเยอรมนีและออสเตรีย และคณะที่ร่วมเดินทางยังได้เยี่ยมชมศูนย์ฝึกการต่อสู้ทางทหารของเยอรมนีด้วย
รายงานอ้างคำกล่าวผู้นำสูงสุดของกองทัพพม่าระบุว่า การเยือนยุโรปครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือระหว่างกองกำลังทหารของสองฝ่าย แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่า คณะเยือนของพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ได้ลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการหรือบรรลุข้อตกลงเชิงพาณิชย์ใดๆ
.
.
กระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนียืนยันว่า มิน ออง หล่าย ได้พบหารือกับรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศในวันศุกร์ (28) ที่กรุงเบอร์ลิน แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเยือนครั้งนี้
นักสิทธิมนุษยชนวิตกกังวลว่าชาติตะวันตกและบริษัทต่างๆ อาจจัดหาอาวุธให้กับกองทัพพม่าที่อาจนำไปใช้ในปฏิบัติการต่อต้านพลเรือน
ข้อกล่าวหาที่ว่ากองทัพพม่าก่อเหตุละเมิดสิทธิของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ทำให้ทั่วโลกต่างส่งเสียงประณาม ขณะที่การต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์บางกลุ่มยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐกะฉิ่น
.
2
3
4
เมื่อสัปดาห์ก่อน กลุ่มรณรงค์เกี่ยวกับพม่าในอังกฤษได้กล่าวประณามรัฐบาลเยอรมนีและออสเตรียที่เชิญพล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย เยือนประเทศ
"มิน ออง หล่าย เป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดต่อการปรับปรุงสิทธิมนุษยชน ปฏิรูปประชาธิปไตย สันติภาพ ความทันสมัย และการปรับปรุงสาธารณสุขและการศึกษาในพม่า" กลุ่มรณรงค์ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง
"แทนที่จะกดดันมิน ออง หล่าย ให้ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชน ออสเตรียและเยอรมนีดูเหมือนสนใจที่จะสานสัมพันธ์กับมิน ออง หล่าย เสียมากกว่า บางทีอาจมีความคิดที่จะขายอาวุธให้ในอนาคต พวกเขาไม่สามารถที่จะอ้างได้ว่าพวกเขามีส่วนกดดันด้านสิทธิมนุษยชน ในเมื่อพวกเขาพามิน ออง หล่าย เยี่ยมชมกิจการทางทหาร" คำแถลง ระบุ
มิน ออง หล่าย เคยเดินทางเยือนยุโรปในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อปีก่อน ที่เบลเยี่ยม และอิตาลี
ผู้นำสูงสุดของกองทัพพม่าเดินทางกลับประเทศ ขณะที่นางอองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ออกเดินทางเยือนยุโรป ที่คาดว่าจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายที่เลือกปฏิบัติกับชาวโรฮิงญา นอกเหนือไปจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิชาวโรฮิงญาของกองทัพ
ขณะที่พม่าเปลี่ยนผ่านจากการปกครองโดยทหารไปสู่การปกครองของรัฐบาลพลเรือน ชาติตะวันตกได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลายอย่าง แต่การปฏิรูปประชาธิปไตยกลับคืบหน้าไปช้ากว่าที่คาดไว้ และยังคงมีข้อพิพาทขัดแย้งกับชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการสนับสนุนที่ซูจีควรได้รับ แม้การลงทุนและการค้าจะขยายตัวก็ตาม.