xs
xsm
sm
md
lg

ศ.เวียดนามคนนี้แกเฟื่องจริง ใส่เสื้อยืดแขนกุดเปิดพุงนุ่งขาสั้นยืนหน้าชั้นบรรยาย "การคิดนอกกะลา"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>มันต้องอย่างนี้.. สำหรับการเริ่มต้นการคิดแบบนอกกะลา บอร์ดที่อยู่เบื้องหลังของศาสตร์จารย์นั้น คือ โธมัส อัลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์ชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียน ที่มีผลงานการคิดค้นมากมาย แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงโลก ได้มากมายเท่ากับ หลอดไฟหลอดแรก ที่ทำออกมาให้ความสว่างในความมืด ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่กว่าจะมีวันนั้น ต้องผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาครั้งแล้วครั้งเล่า -- คำพูดของเอดิสันบนบอร์ด มีความหมายว่า ผมไม่ได้ล้มเหลว แต่ผมได้ค้นพบ 10,000 วิธีที่มันไม่เวิร์ก.  </b>

MGRออนไลน์ - ศาสตราจารย์เวียดนามคนหนึ่ง ลงทุนสวมกางเกงลายขาสั้น ในบางครั้งสวมเสื้อยืดทีตัดแขนให้เหลือเพียงข้างเดียว ทำให้ขาดๆ เปิดให้เห็นพุง ลงทุนลงแรงเสียขนาดนี้ ก็เพื่อให้สอดคล้องกับบรรยากาศ ของวิชาเรียนที่ตนเป็นผู้บรรยายคือ "การคิดนอกกรอบ" ชาวเน็ตหลายคนเรียกว่า ศาสตราจารย์สติเฟื่อง เจ้าตัวตกเป็นข่าวในโซเชียลมีเดีย ภาพกับเนื้อหาที่มีผู้นำขึ้นโพสต์ในเฟซบุ๊ก แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในช่วงข้ามวันมานี้

ศาสตราจารย์ ดร.เจือง งเวียน แท็ง (Truong Nguyen Thanh)เป็นรองอธิการบดีคนหนึ่ง และ ยังเป็นคณบดีคณะเคมีและการคำนวณ แห่งมหาวิทยาลัยหวาแซน (Hoa Sen University) สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่มีชื่อเสียงในนครโฮจิมินห์

การแต่งเนื้อแต่งตัวของ ศ.ดร.งเวียน แท็ง นับเป็นปรากฎการณ์หนึ่ง ในสังคมการศึกษาเวียดนามเลยดีเดียว ข้อมูลที่โพสต์ในเฟซบุ๊กของ "กลุ่มเริ่มต้นไปสู่ความเชี่ยวชาญ" ทำให้ทราบว่า มหาวิทยาลัยชื่อดัง กำลังทำโครงการ "โร้ดแม็ปทางด้านนวัตกรรม" (Innovation Roadmap) ซึ่งจะเป็นคณะวิชาใหม่ การแต่งเนื้อแต่งตัวดังกล่าว ก็เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อโครงการ

นอกจากจะอยู่ในตำแหน่งบริหารระดับสูง ของสถาบันแล้ว ศาสตราจารย์ท่านนี้ ยังเป็นผู้บรรยายวิชา "การคิดนอกกรอบ" (Out-of-the-Box Thinking) เป็นวิชาเลือก สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในวันอาทิตย์กับวันจันทร์ และ เป็นที่แน่นอนว่า ความคิดริเริ่ม กับ นวัตกรรม ด้านการแต่งเนื้อแต่งตัวที่เห็นอยู่นี้ ไม่ต่างกับสายล่อฟ้า แต่ผลตอบลัพธ์กลับมา ก็มีทั้งทางลบและทางบวก

อาจารย์ให้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์สำนักหนึ่งว่า สิ่งที่ทำอยู่นี้มิใช่การพีอาร์ โปรโมทสถาบัน เนื่องจากใกล้สอบแอดมิสชั่น แต่เป็นการ "สื่อแรงๆ" ในชั้นเรียน สำหรับผู้ที่เริ่มมองหาวิธาการคิดใหม่ ที่แตกต่างไปจากการคิดเดิมๆ อย่างเคยชิน

"หลายคนอาจเข้าใจผิดในความตั้งใจของผม ก็เพราะว่าท่านเหล่านั้น ไม่รู้ว่าเนื้อหาที่ผมบรรยายเป็นอย่างไร" ศ.ดร.งเวียนแท็งกล่าว

อาจารย์ยังบอกอีกว่า เคยไปบรรยายวิชาคล้ายกันนี้ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งนครโฮจิมินห์ และ เคยแจกเสื้อยืดแก่นักศึกษาในชั้นทุกคน พร้อมบอกพวกเขาว่า "จะเอาไปทำอะไรยังไงก็ได้" ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่า การนำเสื้อที่ได้รับไปสวมใส่เฉยๆ ก็จะไม่ใช่นวัตกรรม และ ไม่มีการริเริ่มสร้างสรรค์
.

2

3
"นักศึกษาบางคนนำไปติดทำเป็นผ้าโพกศรีษะ บางคนนำไปตัดทำผ้าปูโต๊ะ ส่วนผมเอง เอาไปตัดแขนออกข้างหนึ่ง ตัดส่วนหน้าท้องออก ทำให้มองเห็นพุง.. ใครล่ะที่เป็นคนบอกว่า เสือยืดจะต้องมีแขนสองข้าง หรือ จะต้องทำปิดส่วนท้องเอาไว้?" หนังสือพืมพ์เตื่อยแจ๋อ้าง การสัมภาษณ์ ศ.ดร.เจือง งเวียน แท็ง

"เพราะเหตุใดนักศึกษาเวียดนาม จึงประสบความสำเร็จกันมาก เมื่อไปเรียนต่อในต่างประเทศ.. ประชากรของเรา ที่มีจำนวนเฉียดร้อยล้านคน จะทำแบบนั้นบ้างได้มั้ย ในสังคมของเราเอง?" ศาสตราจารย์ตั้งคำถาม

"มันต่างกันยังไง? ต่างกันด้วยสภาพแวดล้อม -- พวกเราปิดกั้นการริเริ่มสร้างสรรค์ตัวเราเอง" อาจารย์กล่าว

ตามประวัติที่นำเสนอทางสื่อออนไลน์ ดร.แท็งเกิดปี พ.ศ.2504 ทำงานและอาศัยอยู่ในสหรัฐเป็นเวลา 38 ปี ก่อนเดินทางกลับเวียดนาม ปัจจุบันเป็นเจ้าของสิทธิบัตรระหว่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ทางไอที 2 ชนิด มีงานเขียนทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่ตีพิมพ์ในวารสารด้านเคมีกับไอทีรวม 180 ชิ้น

อย่างไรก็ตาม ดร.แท็งกล่าวว่า ที่เห็นอยู่นี้แตกต่างไปจากสิ่งที่ปฏิบัติปรกติ ซึ่งได้แก่การแต่งกายที่สุภาพเรียบร้อย เมื่อยืนบรรยายหน้าชั้นทั่วไป -- แต่งานนี้ "ผมต้องการช่วยให้ผู้ฟังได้เข้าใจ เกี่ยวกับกล่องที่พวกเขาขังตัวเองอยู่ข้างใน".
กำลังโหลดความคิดเห็น