MGRออนไลน์ -- ทางการเวียดนามได้เตรียมการต้อนรับ สาวงามคนหนึ่ง ที่เดินทางไปประกวดความงามเวทีระหว่างประเทศ โดยทันที่ที่เดินทางกลับถึงบ้าน ไม่ว่าจะได้มงกุฎหรือรางวัลใดๆ ไปด้วยหรือไม่ก็ตาม ทั้งหมดจะไม่ได้รับการยอมรับ และ เจ้าตัวจะถูกห้ามมิให้กระทำกิจกรรมทางสังคมใดๆ ซึ่งหมายความว่า จะไม่สามารถออกปรากฏตัวต่อสาธารณชน ในฐานะนางงามหรือเทพีได้ ซึ่งเท่ากับเป็นการ "ประหารขีวิต" กัน ในทางการงานอาชีพ และในวงการบนเทิงของประเทศ และ ยังจะเป็นกรณีแรกอีกด้วย
เธอทำได้สำเร็จตามความใฝ่ฝัน คว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 Miss Eco Inetrnational 2017 หรือ สาวงามสิ่งแวดล้อมนานาชาติ จากการประกวดรอบสุดท้ายในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา
ตามกำหนดแต่เดิมนั้น เหวียนถิแถ่ง (Nguyen Thi Thanh) และคณะ จะเดินทางกลับเวียดนามในวันจันทร์ 17 เม.ย.นี้ หลังจากประชุมร่วมกับกองประกวด เกี่ยวกับภาระหน้าที่ ในการสงเสริม การรักษาสภาพแวดล้อมของโลกตลอด 12 เดือนข้างหน้า แต่ไม่มีฝ่ายใดแน่ใจว่า เธอจะสามารถดำเนินการตามพันธะสัญญา ที่ให้ไว้กับกองประกวดในกรุงไคโรได้
ความผิดอันฉกาจฉกรรจ์ ก็คือ เธอไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ ให้เดินทางไปร่วมการประกวดเวทีในต่างประเทศ และ ไม่มีสิทธิ์จะทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากขาดคุณสมบัติพื้นฐาน ที่กำหนดให้จะต้องผ่านการประกวดในระดับประเทศ และ ได้รับตำแหน่งเทพี หรือรองเทพีความงามระดับชาติมาแล้วเท่านั้น
แต่ความจริงก็คือ สาวสวยวัย 21 ปี นักศึกษาสาวจากกรุงฮานอย ชาว จ.บั๊กนีง (Bac Ninh) ที่อยู่ทางทิศตะวันออกกรุงฮานอย เคยขึ้นประชันมาแล้วในหลายเวที รวมทั้งการประกวดในเวทีระดับชาติ นั่นคือ การประกวดมิสเวียดนามยูนิเวิร์ส 2558 และ การประกวดมิสเวียดนาม 2559 (Miss Vietnam 2016) ที่จัดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว
การประกวดเวทีแรกของเธอผ่านไป และ เธอติดกลุ่ม 10 คนในรอบรองสุดท้าย โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่การประกวดเวทีใหญ่ที่สุดของประเทศปลายปีที่แล้ว เธอเข้าไปถึงรอบรองสุดท้ายอีกเช่นเคย และ เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงวันสุกดิบ ได้เกิดเรื่องราวฉาวโฉ่ขึ้นมา เมื่อกองประกวดได้พบว่า สาวสวยเคยทำฟันมาแล้ว
ไม่เพียงแต่เท่านั้น เธอยังปลอมใบรับรองแพทย์ เพื่อสนับสนุนคำอธิบายที่ว่า ไม่ได้ทำฟันเพื่อให้สวยงาม แต่เป็นเพราะว่า ประสบอุบัติเหตุตกบันได ฟันหักไป 4 ซี่ และ ยังต้องถอนอีก 2 รวมเป็น 6 -- นั่นคือสาเหตุที่ต้องไป "ทำฟัน"
.
.
ที่เป็นประเด็นขึ้นมาก็เนื่องจากว่า กระทรวงวัฒนธรรมเวียดนาม ได้กำหนดคุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่ง ที่ระบุว่า หญิงสาวที่จะเข้าประกวดความงามระดับประเทศ จะต้องไม่เคยทำศัลยกรรมส่วนใดๆ ของร่างกายมาก่อน ซึ่งครอบคลุมถึงการทำฟันหรือดัดฟันด้วย
กองประกวดได้สืบค้นไปยังคลิกทันตกรรม ที่เหวียนถิแถ่ง อ้างว่าเป็นผู้ออกใบรับรองการ "ใส่ฟัน" ให้แก่เธอ และ ได้พบว่าไม่เป็นความจริง คลินิกไม่ได้ออกใบรับรองการทำฟันให้แก่เธอ ซึ่งกองประกวดมิสเวียดนาม ถือเป็นการโกหกสาธารณชนทั้งประเทศ ซึ่งโทษก็คือ แถ่งถูกถอดออกจากการประกวดมิสเวียดนาม หลังประกวดรอบรองสุดท้ายแล้วเสร็จที่นครโฮจิมินห์ ก่อนจะย้ายเวทีไปประกวดรอบสุดท้าย ที่เมืองหวุงเต่า เมืองท่องเที่ยวตากอากาศ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไซ่ง่อน
นั่นคือการประกวด ที่โด๋หมีลีง (Do My Linh) สาวนักศึกษามหาวิทาบัยการค้าต่างประเทศ กรุงฮานอย ได้ครองมงกุฏมิสมิสเวียดนาม ประจำปี 2559 ซึ่งก็คือ คนปัจจุบัน
เรื่องราวของเหวียนถิแถ่ง ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อเธอพยายามอีกครั้งหนึ่ง สมัครเข้าประกวดสาวงามการเดินทางท่องเที่ยวเวียดนาม 2017 ที่นครด่าหนังเมื่อต้นปีนี้ และ เธอประสบความสำเร็จ เป็นหนึ่งในสามสาวงาม ที่คว้ามงกุฎเวทีนี้ไปครอง พร้อมเงินและสิ่งของรางวัลอีกมากมาย แต่เพียงข้ามวันต่อมา กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปการแสดง ที่กำกับดูแลการประกวดความสวยความงามของประเทศ ได้สั่งถอดมงกุฎของเธอ ด้วยข้อหาเดิมๆ คือ ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเคยทำฟันมานั่นเอง
สาวสวยให้สัมภาษณ์ในครั้งนั้นว่า เธอเองเสียใจและยอมรับในกฎระเบียบของประเทศ และ จะไม่กระทำการอันดันใดที่ขัดต่อกฎระเบียบกระทรวงวัฒนธรรมอีก
.
2
3
4
5
อย่างไรก็ตามในวันสิ้นเดิอน มี.ค.ที่ผ่านมา แถ่งได้โพสต์ภาพของเธอกับเพื่อนๆ ซึ่งถ่ายที่ท่าอากาศยานนครกรุงฮานอย ก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน พร้อมบอกแฟนๆ ว่า เธอกำลังเดินทางไปอียิปต์เพื่อ ประกวดมิสอีโคอินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะ "ผู้เข้าประกวดอิสระ" และ ในวันต่อมา ก็มีการเผยแพร่จดหมาย ที่เธอส่งถึงกองประกวด บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา และ ขอสมัครเข้าประกวดด้วยตัวเอง "เพื่อสานความฝันอันยิ่งใหญ่ ที่จะได้ร่วมการแสดงออกในเวทีระดับนานาชาติ"
ทั้งหมดนี้ได้ทำให้เหวียนถิแถ่ง กลับมาได้รับความสนใจจากสาธารณชนในบ้านเกิดอีกครั้งหนึ่ง ก่อให้เกิดแรงกดดันมากมาย ต่อกรมศิลปการแสดง ที่ไม่มีทางอื่นนอกจากแจ้งไปยัง บริษัทเอกชนซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ และ เป็นสปอนเซอร์ ให้เรียกตัวสาวสวยกลับคืนประเทศ เพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะใข้ชื่อ "เวียดนาม" ในการประกวดบนเวทีมิสอีโคฯ ในอียิปต์ได้
แต่ทุกฝ่ายต่างยืนยันในหลักการว่า การไปประกวดครั้งนี้ ไม่ได้ไปในฐานะตัวแทนประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แต่ไปในฐานะ น.ส.เหวียนถิแถ่ง เป็นผู้สมัครอิสระ
แต่แล้วแถ่งได้กลายมาเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีทันใด เมื่อวิดีโอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการของเธอต่อกองประกวดนั้น ระบุว่า เธอคือ "เหวียนถิแถ่ง มิสอีโคเวียดนาม 2017" นอกจากนั้นกองประกวด Miss Eco International ก็ยังจัดสายสะพายให้แก่เธอ โดยระบุชื่อ ประเทศ Vietnam เช่นเดียวกับสาวงามตัวแทนจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
ทั้งหมดนี้ทำให้กระทรวงวัฒนธรรมเวียดนาม ต้องออกมาประกาศมาตรการลงโทษ แม้ว่าจะไม่ทำให้การประกวดของเธอในประเทศอียิป ต้องหยุดชะงักลงก็ตาม
แต่ในขณะเดียวกัน ช่วงไม่กี่วันต่อมา ก็มีหลายพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่า สาวงามจากเวียดนามไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย เนื่องจากแรงกดดันจากทางการในบ้านเกิด ในหลายโอกาสแถ่งถอดแผ่นผ้า ที่มีชื่อ Vietnam ออก โดยไม่สวมอะไรแทน และ ไม่กี่วันเวลาต่อมา ก็มีลูกเล่นใหม่ ใช้ผ้าผืนใหม่ โดยมีข้อความใหม่ว่า "From Vietnam" หรือ "จากเวียดนาม" อันเป็นความพยายามที่แสดงให้เห็นว่า เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทางการ และ ประเทศเวียดนาม
เวลาต่อมาเธอถอดผืนผ้าที่มีข้อความ From Vietnam ที่เคยสวมเฉียงจากไหล่ไปยังเอว แบบสะไบเฉียงทั่วไป เปลี่ยนไปเหน็บไว้ที่ขอบกางเกงในระดับเอว ซึ่งได้ก่อให้เกิดผลสะท้านสะเทือนติดตามมาอีกระลอกใหญ่ ชาวเวียดนามจำนวนมากระบุว่า การกระทำเช่นนั้น ถือเป็นการไม่เคารพต่อชื่อของประเทศ และ ชนชาติของตนเอง
.
6
7
8
9
ทั้งหมดนี้ก็เนื่องจากฟันเป็นเหตุแท้ๆ.. ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ภาษาเวียดนาม
ประชามติต่างเห็นอกเห็นฯใจเหวียนถิแถ่ง หลายคนบอกว่า ทางการเข้มงวดกวดกันจนเกินเหตุ แม้กระทั่งการดัดฟัน ก็ยังถือเป็นการ "ศัลยกรรมเสริมแต่ง" เป็นการปิดกั้นโอกาส ที่จะให้สาวสวยลูกหลานชาวเวียดนามอีกจำนวนมาก ไม่สามารถขึ้นเวทีประกวดในบ้านเกิด หรือ เดินทางไปประกวดประชันขันแข่ง บนเวทีใดๆในต่างแดนได้ และ เวียดนามยังไม่เคยประสบความสำเร็จ เป็นชิ่้นเป็นอันจากการประกวดเวทีระดับโลก
สำหรับแถ่ง.. งานนี้เธอพยายามเป็นอย่างมาก ด้วยความเชื่อมั่นอย่างสูง สองสัปดาห์มในกรุงไคโร เธอทำคะแนนได้ดีทีเดียว เช่น ติดอันดับท็อป 4 ในการประกวดข้างเคียงรอบ Miss Sport ท็อป 10 ในรอบ Miss Talent และ ติดกลุ่ม 15 การประกวด Best Resort Wear รวมทั้งเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ในการประกวดเครื่องแต่งกาย Miss Eco
โฆษกบนเวทีประกาศชื่อ เหวียนถิแถ่ง ในฐานะรองอันดับ 3 ว่า เป็น "นักศึกษาผู้สมัครอิสระจากเวียดนาม" เพื่อช่วยกันอีกทาง พร้อมกับประกาศ เจ้าของมงกุฏปีนี้ ซึ่งเป็นสาวงามจากแคนาดา รองอันดับ 1 จากปากีสถาน รองอันดับ 2 จากเบลเยี่ยม และรองอันดับ เป็นสาววสวยจากประเทศเบลารุส
แต่สำหรับกระทรวงวัฒนธรรมเวียดนาม ไม่ว่าเธอจะกลับบ้านพร้อมมงกุฎ Miss Eco International 2017 หรือ จะเป็นรางวัลอะไร หรือ จะกลับมือเปล่าก็ตาม แต่มาตรการลงโทษนั้นรออยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้เวียดนาม เคยลงโทษสาวงามคนหนึ่ง ที่เดินทางไปร่วมการประกวดสาวงาม ในกลุ่มอาเซียน ที่จัดขึ้นในมาเลเซีย โดยไมได้รับอนุญาต และ ใช้ข้ออ้างว่า เป็นการไปประกวดส่วนตัว เช่นเดียวกับที่แถ่ง ใช้อธิบายในการไปอียิปต์ สาวสวยคนนั้นคว้ามงกุฏกลับบ้านเกิด แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากทางการ ไม่มีการฉลองใดๆ เธอยังถูกปรับเป็นเงินประมาณ 850 ดอลลาร์ ฐานกระทำผิดกฎระเบียบ
แต่เหวียนถิแถ่งกำลังจะเป็นสาวงามคนแรก ที่ถูกลงโทษเนื่องจาก "ห้ามแล้วไม่ปฏิบัติตาม" หาทางซิกแซ็กเดินทางไปประกวดในต่างแดน เจ้าหน้าที่กรมศิลปการแสดง ให้สัมภาษณ์ว่า การลงโทษครั้งนี้ เพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง มิให้หญิงสาวชาวเวียดนามคนอื่นๆ เอาเยี่ยงอย่าง.