MGRออนไลน์ -- กลุ่มซาบ (Saab Group) แห่งสวีเดน ได้เปิดสำนักงานในกรุงมะนิลาเป็นที่เรียบร้อย เพื่อบุกตลาดผลิตภัณฑ์ด้านความมั่นคงปลอดภัย และการป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การจำหน่ายเครื่องบินรบทันสมัย JAS39 "กริพเพน" (Gripen) ให้กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ ในแผนการจัดหาเครื่องบินรบจำนวน 2 ฝูง
เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำฟิลิปปินส์ นายฮาราลด์ ฟรายส์ (Harald Fries) ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศนี้ว่า ชาวฟิลิปินส์มีความสัมพันธ์กับชื่อ "ซาบ" ผ่านรถยนต์ของบริษัท ซึ่งไม่มีอีกแล้ว แต่ในปัจจุบันซาบได้กลายเป็น บริษัทด้านกลาโหม และ การป้องกันทั้งทางทหาร และทางพลเรือนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จึงทำให้ต้องเปิดสำนักงานขึ้นในประเทศนี้
ความเคลื่อนไหวนี้ ยังมีขึ้นหลังจากมีรายงานมาเป็นเวลาข้ามปีว่า ซาบมีฐานะอันแข็งแกร่งยิ่ง ในการเจรจาเพื่อจำหน่าย เครื่องบินรบกริพเพน ให้กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ซาบยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทางด้านการป้องกันน่านน้ำและชายฝั่ง สนองความต้องการของฟิลิปปินส์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ เพื่อการตรวจการณ์และตรวจจับทั้งหลาย แม้กระทั่งเรือดำน้ำ
เอกอัครราชทูตสวีเดนกล่าวถึงเรื่องต่างๆ เหล่านี้ ในโอกาสนสนทนาโต๊ะกลมกับผู้สื่อข่าว รำลึกครบรอบ 70 ปีความสัมพันธ์สวีเดน-ฟิลิปปินส์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานเรื่องนี้ในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์หลายฉบับ และสำนักข่าวออนไลน์ภาษาตากาล็อกอีกหลายแห่ง
ไม่เพียงแต่ซาบกลายมาเป็นบริษัทชั้นนำในด้านการป้องกันประเทศเท่านั้น หากยังเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่เอาใจใส่อย่างแข็งขัน และ อย่างรับผิดชอบ ในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม จนถึงการพิทักษ์สิทธิ์แรงงาน และสิทธิมนุษยชนควบคู่กันไป
ปัจจุบันบริษัทธุรกิจที่มีชื่อเสียงของสวีเดนหลายแห่ง กำลังดำเนินการอยู่ในฟิลิปปินส์ รวมทั้งกลุ่มบริษัทผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายยี่ห้อเอชแอนด์เอ็ม (H&M) กลุ่มโทรคมนาคมอีริกสัน (Ericsson) หรือ บริษัททรานส์คอมเวิลด์ไวด์ (Transcom WorldWide AB) ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านบริการลูกค้า
นายฟายส์กล่าวอีกว่า ปีนี้เป็นต้นไป สถานทูตาวีเดนจะดำเนินการอย่างแข็งขัน สนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ของสวีเดน เข้าไปมีส่วนร่วมกับชาวฟิลิปปนส์ ในกิจกรรมทางสังคม การรักษาสิ่งแวดล้อม และ การแรงงานอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เพราะไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ควรกระทำเท่านั้น หากยังต้องทำด้วยความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ที่พวกเขาอยู่อีกด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่า กลุ่มซาบกับกำลังรุกคืบอย่างหนัก ขยายตลาดเครื่องบินรบกริพเพนในย่านเอเชีย โดยปีนี้จัดส่ง JAS39 เข้าร่วมงานนิทรรศการด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่งานนิทรรศการการบินและการอวกาศในอินเดีย และดูไบที่ผ่านมา กริพเพนกำลังจะเข้าร่วมงาน LIMA 2017 ที่กำลังจะมีขึ้นในมาเลเซียสัปดาห์หน้า
เจ้าหน้าที่ซาบประกาศก่อนหน้านี้ว่า กริพเพน เป็นเครื่องบินรบที่เหมาะสมยิ่งสำหรับ เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ของอินเดีย
หลังจากประสบความสำเร็จ ในการจำหน่าย JAS39 ให้กองทัพอากาศไทยเป็นรายแรกในย่านนี้ ซาบได้มุ่งหน้าเข้าฟิลิปปินส์ ที่หลายปีมานี้ทุ่มเทงบประมาณ ในการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยเพื่อการป้องกันประเทศ หลังการพิพาทกับจีน ในกรณีน่านน้ำและหมู่เกาะปะการังใน "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก"
ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้กล่าวว่า โดยโครงสร้างด้านกลาโหมของฟิลิปปินส์ ประเทศนี้ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐกับนาโต้ตลอดมา เครื่องบินรบ เรือรบ เรือดำน้ำ และ ระบบอาวุธอื่นๆ ของสวีเดนนับเป็นอาวุธทางเลือกที่เหมาะสมยิ่ง เพราะใช้มาตรฐานนาโต้อันเดียวกันทุกประการ คุณภาพดี ในราคาที่สามารถแตะต้องได้
นอกจากฟิลิปปินส์แล้ว ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีอินโดนีเซียอีกประเทศหนึ่ง ที่กำลังมองหาเครื่องบินรบทันสมัย เพื่อบรรจุเข้าประจำการแทน ฝูง F-5
อินโดนีเซียเคยแสดงความสนใจ รวมทั้งเคยมีการเจรจาซื้อ Su-35 เครื่องบินรบยุคที่ 4++ ทันสมัยจากรัสเซีย เรื่องนี้ได้เงียบหายมา นานข้ามปี รวมทั้งมีรายงานมาเป็นระยะๆ ว่า อินโดนีเซียกำลังขับเคี่ยวกับซาบ เกี่ยวกับการจัดหากริพเพน จำนวน 2 ฝูง
เวียดนามก็เป็นอีกประเทศหนึ่งในย่านนี้ ที่พิจารณา JAS39 อย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรัสเซีย จำหน่าย Su-35 ให้จีน และ มีการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 4 ลำ เมื่อปลายปีที่แล้ว
กองทัพอากาศเวียดนาม จะต้องจัดหาเครื่องบินรบจำนวนมาก เพื่่อบรรจุเข้าประจำการแทน เครื่องบินรบรุ่นเก่า ที่ผลิตจากโซเวียตเมื่อก่อน ที่ใช้งานมานาน และ เริ่มมองหาทางเลือกใหม่ๆ แทนการพึ่งพาระบบอาวุธโซเวียต/รัสเซียตลอดไป.