กองทัพพม่าแถลงป้องปฏิบัติการปราบปรามโรฮิงญาปฏิเสธรายงานละเมิดสิทธิ

รอยเตอร์/เอพี - กองทัพพม่ากล่าวปกป้องการปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา ระบุว่า เป็นปฏิบัติการปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบที่ดำเนินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในการแถลงข่าววานนี้ (28) โดยอ้างถึงความจำเป็นในการปกป้องประเทศ

นับเป็นครั้งแรกที่นายทหารระดับชั้นนายพลออกมาจัดการโดยตรงต่อข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิ ที่ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ ระบุว่า อาจมีความรุนแรงเทียบได้กับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

“ผมต้องการที่จะกล่าวว่า ผมรู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะการกล่าวหาโดยไม่ไตร่ตรอง และการไม่สนใจต่อสิ่งที่ดี ที่รัฐบาล และทหารได้กระทำไปเพื่อพวกเขา” พล.ท.มา ทุน อู เสนาธิการทหาร อ้างถึงรายงานของสื่อที่ระบุว่า ชาวโรฮิงญาถูกละเมิดสิทธิ

พล.ท.มา ทุน อู กล่าวในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเนปีดอ ว่า การเพิ่มขึ้นของประชากรชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่า พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนแกนนำทางศาสนา และมัสยิด พิสูจน์ให้เห็นว่าข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการกดขี่ทางศาสนานั้นไม่ถูกต้อง

ในการแถลงข่าวนาน 2 ชั่วโมง 30 นาที ที่รวมทั้งการฉายภาพบรรยาย และวิดีโอคลิป นับเป็นเรื่องที่ไม่ปกตินักสำหรับทหารที่กำลังพยายามจะรับมือต่อข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดย พล.ท.มา ทุน อู ได้พูดถึงบางคดีที่ผู้สืบสวนสิทธิมนุษยชนกล่าวอ้าง โดยระบุว่า รัฐบาลไม่สามารถหารายงานมือหนึ่ง หรือรายงานที่ตรวจสอบได้ที่จะสามารถยืนยันข้อกล่าวหาเหล่านั้น

ทหารเริ่มปฏิบัติการปราบปรามในพื้นที่ หลังตำรวจ 9 นาย ถูกสังหารในการโจมตีด่านชายแดนใกล้ชายแดนบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. และตั้งแต่นั้น ชาวโรฮิงญามากกว่า 70,000 คน ได้หลบหนีข้ามฝั่งเข้าไปในบังกลาเทศ ตามการประเมินของสหประชาชาติ

พล.ท.มา ทุน อู ระบุว่า ทหารยังคงดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาต่อไป

“หากเราพบว่าคดีเหล่านี้เกิดขึ้นจริงตามการกล่าวหาในสื่อ เราจะดำเนินมาตรการอย่างจริงจังที่สุดตามระเบียบทหาร และกฎหมาย” พล.ท.มา ทุน อู กล่าว

แต่ผลสรุปการสอบสวนดูเหมือนจะถูกเฉลยออกมาก่อนกำหนด โดย พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการแถลงข่าว ได้โพสต์ความคิดเห็นตอบโต้ต่อผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายอื่นว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ผิดไปมากเมื่อเทียบกับสถานการณ์ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่

“กองกำลังรักษาความมั่นคงปฏิบัติตามหน้าที่สอดคล้องต่อกฎหมาย ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเหตุการณ์จะถูกเผยแพร่ตามกำหนดเวลา” พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ระบุ.