ศาลเขมรแดงยกฟ้องแม่ชีคุมค่ายแรงงาน ชี้ไม่มีบทบาทแกนนำสำคัญ

รอยเตอร์ - ศาลอาชญากรรมสงครามที่สหประชาชาติให้การสนับสนุนในกัมพูชา ได้ถอนข้อหาต่ออดีตพลพรรคเขมรแดงในวันนี้ (22) โดยระบุว่า แม่ชีที่ตกเป็นจำเลยไม่ได้มีบทบาทในระดับสูงมากพอในช่วงการปกครองของเขมรแดงราวทศวรรษ 1940 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1.8 ล้านคน

การตัดสินใจที่เกิดขึ้นกับคดีของอิม เจียม แม่ชีวัย 60 ที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ดูแลค่ายบังคับใช้แรงงาน นับเป็นประโยชน์ต่อนายกรัฐมนตรีฮุนเซน อดีตทหารเขมรแดงที่คัดค้านการไต่สวนเพิ่มเติมของศาลมาโดยตลอด

นักวิจารณ์กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของศาล ที่พบว่า พิพากษาตัดสินความผิดผู้ต้องหาไปเพียงแค่ 3 ราย หลังดำเนินงานมานาน 10 ปี ด้วยทุนกว่า 260 ล้านดอลลาร์

ศาลพิเศษภายในศาลยุติธรรมแห่งกัมพูชา (ECCC) ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งว่า อิม เจียม ไม่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจศาล เพราะอิม เจียม ไม่ได้เป็นแกนนำอาวุโสของเขมรแดง หรือหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสูงสุด

เหยื่อเขมรแดงส่วนใหญ่เสียชีวิตจากความอดอยาก การถูกทรมาน การสังหาร ความอ่อนเพลีย หรือโรคภัยในค่ายแรงงาน หรือถูกทุบตีจนถึงแก่ความตายในการสังหารหมู่

อิม เจียม อดีตผู้บัญชาการเขตเขมรแดง ถูกตั้งข้อหาสังหารและก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แต่ไม่ได้มาปรากฏตัวที่ศาลเพราะตำรวจกัมพูชาไม่ได้จับกุมตัว หรือตั้งข้อหากับพลพรรคเขมรแดงอาวุโสรายอื่นๆ และฮุนเซน ที่อยู่ในอำนาจมา 30ปี เคยเตือนว่า การขยายผลสืบสวนเพิ่มเติมอาจทำให้กัมพูชาเข้าสู่สงครามกลางเมืองอีกครั้ง

“ตราบเท่าที่ผู้พิพากษาปฏิบัติตามกฎและหลักฐาน เราต้องยอมรับการตัดสินใจ แต่บางครั้งมันก็ยากที่จะยอมรับ” ยุก ชาง ผู้ที่เคยทนทุกข์ทรมานในค่ายของอิม เจียม กล่าว

ทีมของยุก ชาง ใช้เวลามากกว่า 20 ปี รวบรวมเอกสารความน่าสะพรึงกลัวของการปกครองเขมรแดง และส่งมอบเอกสารกว่าครึ่งล้านฉบับให้แก่ศาล

ตัวแทนจากกลุ่มผู้สังเกตการณ์การพิจารณาคดี กล่าวว่า ศาลเผชิญบททดสอบความน่าเชื่อถือและจำเป็นที่จะต้องอธิบายถึงการตัดสินใจของศาลให้แก่ผู้รอดชีวิต ผู้คนต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นการแทรกแซง

ศาลรุมเร้าไปด้วยปัญหาการต่อสู้ภายใน การแทรกแซงทางการเมือง การลาออก และการขาดแคลนทุน นับตั้งแต่ศาลก่อตั้งขึ้นเพื่อนำตัวผู้ที่รับผิดชอบต่อการตายของประชาชนกว่า 1 ใน 5 ของประชากรทั้งประเทศในช่วงปี 2518-2522 มารับโทษ.