เอเอฟพี - รัฐบาลพม่าเผยตำรวจกำลังสืบสวนเหตุฆาตกรรม 4 ศพ ในรัฐยะไข่ ไม่กี่วันหลังทหารยุติการปราบปรามในพื้นที่ ที่สหประชาชาติเปรียบเทียบกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
สำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐระบุในคำแถลงว่า พบศพผู้หญิง 3 ศพ และผู้ชาย 1 ศพ ฝังอยู่ในทุ่งใกล้หมู่บ้านลูพันเปง ในเมืองหม่องดอ เมื่อวันพฤหัสฯ (16)
“บนร่างของผู้ชายพบรอยบาดแผลลึกที่บริเวณรักแร้ซ้าย และศีรษะแตกเปิดออก ส่วนศพผู้หญิง 2 ศพ จากทั้งหมด 3 ศพ มีบาดแผลลึกที่หลัง และกระดูกสันหลังหัก” คำแถลงของสำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐระบุ โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าเหยื่อเป็นใคร
ศพถูกพบหนึ่งวันหลังรัฐบาลประกาศยุติปฏิบัติการปราบปรามกวาดล้างในพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ ที่เริ่มดำเนินการเพื่อค้นหาผู้ก่อความไม่สงบที่โจมตีด่านตำรวจในเดือน ต.ค.
สหประชาชาติกล่าวว่า การค้นหาผู้ก่อความไม่สงบถูกใช้เป็นฉากหน้าสำหรับการปราบปรามนาน 4 เดือน ที่กองกำลังรักษาความมั่นคงได้สังหารชาวมุสลิมโรฮิงญาไปหลายร้อยคน
ตั้งแต่นั้น ชาวโรฮิงญามากกว่า 70,000 คน ได้หลบหนีเข้าไปในบังกลาเทศ พร้อมเปิดเผยเรื่องราวที่อ้างว่ากองกำลังทหารรุมข่มขืนผู้หญิง สังหารเด็ก และเผาคนทั้งเป็น ขณะที่ผู้สืบสวนสหประชาชาติที่สัมภาษณ์ผู้ลี้ภัยกล่าวว่า ความรุนแรงมีแนวโน้มอย่างมากที่เทียบได้กับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
เป็นเวลาหลายเดือนที่พม่าได้จำกัดการเข้าถึงพื้นที่ปราบปรามใกล้พรมแดนบังกลาเทศ และปฏิเสธข้อกล่าวหาที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน และนักข่าวรายงาน แต่รายงานของสหประชาชาติได้สร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลของนางอองซานซูจี
นับแต่รายงานของสหประชาชาติเผยแพร่ออกมา สื่อทางการพม่าได้รายงานความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการที่มีหน้าที่สืบสวนข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิในรัฐยะไข่เป็นประจำทุกวัน
แต่นักวิจารณ์ปฏิเสธคณะกรรมการสืบสวนที่มีรองประธานาธิบดีมี้น ส่วย เป็นหัวหน้าคณะ และไม่มีสมาชิกชาวมุสลิมรวมอยู่ในคณะ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติกล่าวว่า คณะทำงานชุดนี้ไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าเชื่อถือ และเรียกร้องให้มีการสืบสวนระหว่างประเทศในข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิต่างๆ.