xs
xsm
sm
md
lg

อินเดียเผยเจรจาขายจรวด “อากาศ” ให้เวียดนามรายแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ภาพการทดสอบยิงจรวด อากาศ (Akash) จากฐานยิงจรวดเคลื่อนที่ ที่เมืองจันดิปุร์ รัฐโอริสสา อินเดีย. -- ภาพ : wikipedia.org.</font></b>

รอยเตอร์ - อินเดียกำลังเจรจาที่จะขายระบบจรวดจากพื้นสู่อากาศพิสัยใกล้ให้แก่เวียดนาม ตามการเปิดเผยของหัวหน้าหน่วยวิจัยด้านการป้องกันของอินเดีย ที่จะกลายเป็นการส่งมอบอาวุธรุ่นนี้เป็นครั้งแรกให้แก่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อินเดีย ให้ความช่วยเหลือทหารของเวียดนาม ผ่านการฝึกอบรม และการจัดหาเรือลาดตระเวน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังขยายตัวลึกซึ้งยิ่งขึ้นจากการเจราจาขายจรวด ที่อาจนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากจีน ที่มีข้อพิพาทดินแดนกับฮานอยในทะเลจีนใต้

กรุงนิวเดลี กำลังเจรจาหารืออยู่กับหลายประเทศที่จะขายจรวด "อากาศ" (Akash) ซึ่งเป็นจรวดยิงจากพื้นสู่อากาศ นายเอส คริสโตเฟอร์ ประธานองค์การวิจัยและพัฒนาด้านการป้องกันประเทศของอินเดีย (DRDO) กล่าว ความเคลื่อนไหวที่สอดรับต่อการผลักดันของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ที่ต้องการให้อินเดียเป็นประเทศผู้ส่งออกอาวุธ

“เรากำลังหารือกับประเทศต่างๆ หนึ่งในนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือ เวียดนาม” คริสโตเฟอร์ กล่าวในการแถลงข่าวนอกรอบงานแสดงแอร์โชว์ ที่ DRDO กำลังจัดแสดงโครงการจรวดและโครงการสำคัญอื่นๆ ซึ่งรวมทั้งเครื่องบินสู้รบที่ผลิตขึ้นในประเทศ

คริสโตเฟอร์ ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงจำนวนของจรวดอากาศ ที่รัฐบาลอินเดียวางแผนจะจัดส่งให้เวียดนาม

เวียดนาม อยู่ระหว่างการเสริมแสนยานุภาพทางทหารอย่างเงียบๆ ที่นักวิเคราะห์กล่าวว่ามีขึ้นในลักษณะของการป้องปราม เพื่อรักษาเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเล เนื่องจากจีนรุกคืบอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้ ผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า เวียดนามอยู่ในตลาดเครื่องบินรบ และระบบจรวดทันสมัย นอกเหนือไปจากเรือดำน้ำชั้นกิโล ที่ซื้อมาจากรัสเซีย

ส่วนอินเดีย ที่มีข้อพิพาทขัดแย้งกับจีนเกี่ยวกับพรมแดนเช่นกันนั้น ในช่วงที่ผ่านมา ได้ขายจรวดบราห์มอส ความเร็วเหนือเสียง พิสัย 290 กิโลเมตร ให้แก่เวียดนาม และยังช่วยเหลืออย่างสม่ำเสมอในการเสริมความแข็งแกร่งด้านการป้องกันของเวียดนาม

เมื่อปีก่อน นายกฯ โมดี ประกาศให้วงเงินสินเชื่อ 500 ล้านดอลลาร์แก่เวียดนาม เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ด้านการป้องกัน เพิ่มจาก 100 ล้านดอลลาร์ ที่เคยให้ก่อนหน้านั้น เพื่อช่วยเหลือในการจัดซื้อเรือลาดตระเวน และทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะฝึกอบรมนักบินกองทัพอากาศเวียดนามในการควบคุมเครื่องบินรบ Su-30 ของรัสเซีย.
กำลังโหลดความคิดเห็น