MGRออนไลน์ -- เงียบกริบตลอดมานับตั้งแต่ไทยจับกุมนายไซซะนะ แก้วพิมพา ที่ได้ชื่อเป็นผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ในอนุภูมิภาค ที่เกี่ยวพันกับการขนส่งยาเสพติดข้ามแดน ลาว ไทย มาเลเซีย จนถึงสิงคโปร์ ตำรวจลาวกล่าวว่าไม่เคยอยู่นิ่ง และ เพียงหนึ่งวัน หลังนายไซซะนะถูกจับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ฝ่ายลาวได้เข้ากวาดล้าง สมาชิกแก๊งที่เหลืออยู่ในแขวงคำม่วน ในแผนการติดตามจับกุมครั้งใหญ่ ที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เพียงแต่นายไซซะนะ หรือ "วันลบ" หลบหนีไปกบดานในประเทศไทย จึงได้ประสานฝ่ายไทย ให้ช่วยดำเนินการต่อ
ตำรวจลาวยังได้เข้าจับกุมผู้ค้ายาอีกรายหนึ่งในนครเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่กว่านายไซซะนะอีก การจับกุมกวาดล้างนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่ดำเนินต่อเนื่องกันมา ตั้งแต่ภาคเหนือ ในเมืองหลวง ไปจนถึงภาคใต้ของประเทศ ทำให้ต้องปิดเงียบ เนื่องจากเกรงจะเสียรูปคดี หลังการจับกุมครั้งล่าสุด ที่มีขึ้นในปลายเดือน ม.ค.2560 ทำให้มีการกวาดล้างรวมทั้งหมด 5 แก๊งใหญ่ ตำรวจลาวจึงสามารถออกแถลงต่อสาธารณชนได้ พร้อมหลักฐานที่แน่นหนา และ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้การสารภาพ
ในการกวาดล้างที่ดำเนินติดต่อกันมา 5 เดือนเศษ ฝ่ายลาวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 33 คน ในนั้นเป็นหญิง 11 คน พร้อมหลักฐานครบถ้วน จับยึดยาเสพติดของกลางได้หลายชนิด อาวุธปืนที่ใช้ในสงครามอีกหลายกระบอก พร้อมเงินสดสกุลต่างๆ และ วัตถุมีค่าจำนวนหนึ่ง ฯลฯ เจ้าหน้าที่ยังจับยึดบ้านพัก โรงแรม ตลาดสด ร้านอาหาร ร้านเฟอร์นิเจอร์ โรงงานสังกะสี คลังสินค้า โชว์รูมรถยนต์ ห้องแถว ปั้มน้ำมัน รถยนต์ขนาดใหญ่ ไปจนถึงเจ๊ตสกี
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังจับดุมดำเนินคดี คนกลุ่มหนึ่งที่วิ่งเต้นเสนอเงินให้ 30 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหายยาเสพติดรายใหญ่ โดยจ่ายให้ทันที 10 ล้านบาท ที่เหลืองวดหนึ่ง 20 ล้าน จะจ่ายทันทีที่ผู้ต้องสงสัย ที่ต้องการ ได้รับการปล่อยตัว ตำรวจได้จับกลุ่มคนดังกล่าว พร้อมขยายผลการสอบสวนสืบสวน เพื่อกวาดล้างกระบวนการนี้ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
พลจัตวาทองเหล็ก มังหน่อเมก หัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ ได้ออกแถลงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ในนครเวียงจันทน์ตอนบ่ายวันพุธ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความสนใจของผู้สื่อข่าว และ สาธารณชนทั่วไป ข่าวการออกแถลงของนายตำรวจใหญ่ของลาว ที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์แห่งชาติในค่ำวันเดียวกัน และ รายละเอียดต่างๆ ที่เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวของทางการ กับเว็บไซต์ เว็บบล็อก รวมทั้งเฟซบุ๊กภาษาลาวอีกหลายแห่ง ในช่วงเวลากลางคืน ได้รับความสนใจจากชาวลาวหลายพันคน
รายละเอียดที่หัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจลาว แก๊งค้ายาเสพติด ทั้ง 5 ที่ถูกติดตามจับกุม ตั้งแต่เดือน ก.ย.2559 เป็นต้นมาได้แก่ แก๊งของนายกิน้อย ผาไซทะวี (หรือแอน้อย/น้อยอากาศ) แก๊งนายหวาด พิลาวัน แก๊งนายคอนปะสง สุกกะเสิม ซึ่ง พ.จ.ทองเหล็กกล่าวว่า เป็นแก๊งใหญ่ที่สุด ใหญ่กว่าแก๊งนายไซซะนะ กับแก๊งของนายไซซะนะ ที่เหลืออยู่ในลาว อีกแก๊งหนึ่งซึ่งเป็นแก๊งที่ 5 จับได้ในแขวงสะหวันนะเขต
.
.
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียด เกี่ยวกับการจับกุม ตามรายละเอียดที่รายงานโดยสำนักข่าวสารปะเทดลาว และ สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ:
- 16 ก.ย.2559 ตำรวจจับนายกิน้อย อายุ 34 ปี เชื้อชาติ-สัญชาติลาว อาศัยอยู่บ้านอากาด เมืองสีโคดตะบอง นครเวียงจันทน์ พร้อมพรรคพวกจำนวน 16 คน ในนั้นเป็นหญิง 4 คน
- 11 ธ.ค.2559 จับกุมสามีภรรยา นายหวาด กับนางแก้ว อายุ 41 และ 39 ปีตามลำดับ เชื้อชาติ-สัญชาติลาว ที่แขวงบ่อแก้วทางตอนเหนือของประเทศ
- 10 ม.ค.2559 จับกุมนายคอนปะสง (หรือ เซียงเทอ) อายุ 47 ปี เชื้อชาติ-สัญชาติลาว ชาวนครเวียงจันทน์ พร้อมพรรคพวก 3 คน ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่กว่านายไซซะนะ
- กลุ่มที่ 4 คือกลุ่มนายไซซะนะ อายุ 41 ปี สัญชาติลาว ชาวแขวงคำม่วน ที่หลบหนีหมายจับ จึงได้ประสานงานกับตำรวจไทย จนสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ต่อมาวันที่ 20 ม.ค.เจ้าหน้าที่ลาวได้ติดตามจับกุมพรรคพวกของนายไซซะนะ จำนวน 5 คน เป็นหญิง 1 คน ทั้งในแขวงคำม่วน รวมทั้งในนครเวียงจันทน์
- 24 ม.ค.2560 จับกุมนายคอนไท โคดสมบัด ชาวบ้านหลักเมือง เมือง (อำเภอ) สองคอน แขวงสะหวันนะเขต พร้อมพรรคพวกอีก 2 คน
หัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจลาว ไม่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมทั้งจะขอให้ฝ่ายไทย ส่งตัวนายไซซะนะ เป็นนักโทษข้ามแดนหรือไม่
แต่ พล.จ.ทองเหล็ก กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นความสำเร็จในเบื้องต้นเท่านั้น กระทรวงป้องกันความสงบ ยังจะต้องดำเนินการต่อไปเพื่อแก้ไข "ปรากฏการณ์ย่อท้อ" ของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การติดตามจับกุมปราบปราม กลุ่มซื้อขาย ขนส่ง และ มียาเสพติดไว้ในครอบครอง และ ขอขอบคุณการมีส่วนร่วมของประชาชนทั่วไป การปกครองท้องถิ่นต่างๆ แขวงต่างๆ ทั่วประเทศ.